OPOLOP POPPY: Poppy's Diary : อีกหนึ่งจังหวัดของเกาหลีที่ขอแนะนำ ... Daegu ...

EXCO สถานที่จัดงาน Daegu Fashion Fair 2014

หากใครที่เคยไปเกาหลีมาในก่อนหน้านี้แล้วหลายครั้ง แล้วอาจจะอยากลองแว็บไปนอกเมืองหลวงอย่างกรุง Seoul วันนี้ทาง Opolop Poppy ก็ขอแนะนำ Daegu หนึ่งในจังหวัดขึ้นชื่อของเกาหลีใต้ที่ใหญ่เป็นรองก็แค่ Seoul และ Busan เท่านั้น ไว้ให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดีๆสำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่สวยๆมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สินค้าแฟชั่นมีครบถ้วน ทุกอย่างล้วนคล้ายกับกรุง Seoul เพียงแต่ดูสบายตากว่าด้วยผู้คนซึ่งไม่เยอะเท่า แม้ว่า Opolop Poppy เคยไปเกาหลีมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้แว็บไปที่ Daegu เพื่อไปชมงาน 'Daegu Fashion Fair 2014' โดยที่ครั้งนี้มีดีไซเนอร์ไทยอย่างคุณ Ek Thongprasert ที่นำคอลเล็กชั่นของ Curated S/S 2015 ไปร่วมแสดงผลงานในคราวนี้ด้วยเช่นกัน

บรรยากาศวันเปิดงาน

ไทม์ไลน์ของแฟชั่นโชว์ปีต่างๆใน Daegu

S/S 2015 บางส่วนจากหลากหลายดีไซเนอร์

Menswear ของดีไซเนอร์เกาหลียังคงเป็นที่สนใจ

Daegu นั้นเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของเมืองสิ่งทอ แล้วส่วนตัวก็คิดว่าคงเป็นเมืองแฟชั่นก่อนที่จะขยายฐานไปที่กรุง Seoul เพราะจากข้อมูลที่โชว์ไว้ใน Fashion Center ของเมืองนี้ ก็มีการจัดการแสดงแฟชั่นโชว์อย่างเป็นเรื่องเป็นราวตั้งแต่ 90's แล้วหลายท่าน จากหลากหลายประเทศที่ไปร่วมงานในคราวนี้ต่างก็มีจุดหมายคล้ายกันนั่นคือไปดูตลาดผ้า และดูสินค้าดีไซเนอร์คลื่นลูกใหม่ในงาน Daegu Fashion Fair คราวนี้ มีหลายๆดีไซเนอร์เกาหลีนั้นเคยนำผลงาน S/S 2015 ไปโชว์ในงานแฟร์อย่างใน Milan มาก่อนที่จะมาโชว์ที่นี่ แล้วบอกได้เลยว่ามีผลงานมากมายซึ่งส่วนตัวประทับใจมากๆเลยทีเดียว อย่างที่ยกตัวอย่างมาให้ดูใน Poppy's Diary คราวนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ประทับใจจากทั้งหมดที่นำมาร่วมแสดงภายในงาน

ในส่วนของงานจากนักศึกษาก็น่าสนใจเช่นกัน

สารพัดเทคนิคผสมผสานกับการใช้วัสดุ

ผลงานบางส่วนจากดีไซเนอร์คลื่นลูกใหม่

รันเวย์โชว์จาก Daegu Fashion Fair 2014

ในส่วนของคอแฟชั่นที่ชื่นชอบการช็อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจ แน่นอนว่าจังหวัดซึ่งใหญ่ติด 1 ใน 3 ของเกาหลีอย่างเช่นที่ Daegu นั้นก็มีทั้งสินค้าแฟชั่นจากแบรนด์หรูหราระดับโลกอย่าง Louis Vuitton, Prada, Chanel แบรนด์สตรีทแฟชั่นอย่าง H&M, Zara และแบรนด์ระดับท็อปของเกาหลีเองอย่าง MVIO, Bean Pole และโลคอลแบรนด์มาให้เลือกกันอย่างครบถ้วน อีกทั้งบนถนน shopping สายสำคัญ Dongseongno นั้น ก็ใกล้เคียงกับ Myeongdong ในกรุง Seoul สินค้าแฟชั่นมีให้เลือกซื้อหลากหลาย ร้านอาหารดังๆมีให้เลือกมากมาย แถมยิ่งดึกก็ยิ่งคึกคัก ยิ่งในช่วง Autumn ที่ได้ไปในครั้งนี้มีเทศกาลต่างๆมากมายจัดให้เข้ากับฤดูกาลด้วยแล้วยิ่งทำให้รู้สึกว่า Daegu ในวันนี้นั้นไม่ได้ต่างจากเมืองหลวงอย่างกรุง Seoul เลย

ชุดเจ้าสาวฝีมือดีไซเนอร์เกาหลี

Daegu Street Fashion

ในส่วนของ Street Fashion ที่เห็นได้จากที่ Daegu ก็ดูไม่ต่างจากกรุง Seoul เช่นกัน ทั้งคนที่มาดูโชว์จากงาน Daegu Fashion Fair และที่เห็นได้ในย่านแฟชั่นและถนนช้อปปิ้ง นั่นคือ sneakers คู่สวย(เหมาะและช่วยให้การเดินไปมาในเมืองที่เป็นพื้นที่ภูเขาเดิมสบายที่สุด) และแฟชั่นชายที่กลายเป็นสไตล์เฉพาะตัวไปแล้วของเกาหลีที่ต้องเป็น กางเกงขาเต่อ(ทั้งกางเกงสแลค และกางเกงวอร์ม) เพียงแต่ว่าส่วนใหญ่ที่ได้เห็น(หลังจากไปอยู่ที่ Daegu มา 4 วัน)นั้น สีสันจะหลากหลาย แต่จะมีเป็นรายๆที่เน้นโทนเข้ม(ให้นึกถึง Rick Owens)ประปราย ไม่มากมายอย่างใน Seoul และจะเห็นได้ส่วนใหญ่จากในงาน Fashion Fair แต่ไม่ค่อยเห็นแต่งดาร์คๆแบบนี้ทั่วไปตามท้องถนนมากนัก (ในขณะที่หลายย่านใน Seoul นั้นเห็นได้จนชินตา)

Dongseongno Street

ถนนช้อปปิ้งก็คึกคักไม่แพ้เมียงดงในกรุงโซล

หลายร้านดังในกรุงโซล ที่ Daegu ก็มีเช่นกัน

ร้านรองเท้ากีฬาที่มีมากไม่แพ้ร้านเสื้อผ้า

สำหรับใครที่ได้อ่านมาแล้วอยากลองไปสัมผัสบรรยากาศดีๆใน Daegu นั้น สามารถทำได้โดยไปต่อเครื่องบินภายในประเทศ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40-50 นาที หรือจะเป็นรถไฟความเร็วสูง KTX ที่ใช้เวลาประมาณเกือบๆ 2 ชั่วโมง แล้วใน Daegu เองก็มีโรงแรมมากมายๆหลายระดับรองรับนักท่องเที่ยว แถมก็ยังมีจุดบริการนักท่องเที่ยวให้อุ่นใจว่า ถ้าหากพูดภาษาเกาหลีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพียงใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารก็ได้ การเดินทางสะดวกสบายทั้ง Taxi และ รถประจำทางบนท้องถนน หรือเดินทางโดย Subway อย่างรวดเร็วก็ได้ด้วยเช่นกัน น่าเสียดายที่ทริปใน Daegu สามคืน สี่วันคราวนี้นั้นไม่ได้ไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม หรือดูธรรมชาติที่สวยงาม แต่หากมีโอกาสได้ไปอีกครั้งหน้าจะพยายามให้ไม่พลาดอีกหลายๆสถานที่สวยๆของ Daegu อย่างแน่นอน เพราะเชื่อว่า Daegu ยังมีอะไรให้น่าค้นหาอีกมากมายทีเดียว ^__^