December 16, 2015

Beth Ditto และ Jean Paul Gaultier นำเสนอเสื้อผ้าสำหรับสาวไซส์ใหญ่


Beth Ditto x Jean Paul Gaultier
for Plus-Size Clothing Line

หลายคนคงจำภาพของสาวไซส์ใหญ่ Beth Ditto ในโชว์ของ Jean Paul Gaultier ที่ผ่านมาได้ แล้ว Beth Ditto ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าสาวไซส์ใหญ่นั้นสามารถสวยด้วยรูปร่างที่นำเสนอความงามในแบบฉบับของตัวเองออกมาได้ไม่แพ้กับสาวร่างบาง ดังนั้นในตอนนี้ Beth Ditto จึงจับมือกับ Jean Paul Gaultier อีกครั้ง เพื่อลอนช์ไลน์เสื้อผ้าในแบบ Plus-Size สำหรับสาวไซส์ใหญ่โดยเฉพาะ แล้วหากใครสนใจก็ลองคลิ๊กเข้าไปดูได้เลยที่ bethditto.com ^__^

December 15, 2015

กระเป๋าทรงขนมจีบ และนาฬิกาเรือนใหม่ของ LV Men S/S 2016


Louis Vuitton Men Spring 2016
Bag & Tambour Watch

หนึ่งในกระเป๋าใบเด่นของ Louis Vuitton Men ฤดูร้อน 2016 ที่ทำให้นึกย้อนกลับไปในช่วง 90's ก็คือ กระเป๋ารูปทรง 'ขนมจีบ' ตามที่หลายๆคนเรียกกัน เพราะหากใครที่โตทันในช่วง 90's ก็คงน่าจะเคยเห็นว่า ที่สุดของสาวไทยในยุคนั้นคือการได้ถือกระเป๋าหลุยส์ลวดลาย Epi หรือ 'ลายไม้' ตามที่หลายๆคนเรียก จะเป็นรูปทรงพัด, ทรงไวโอลิน, ทรงขนมจีบ ก็ล้วนแต่ฮอตฮิตติดลมบนแทบทั้งสิ้น ยิ่งเป็นในช่วงปลาย 90's ที่ Louis Vuitton มีคอลเล็กชั่น Black Epi ด้วยแล้วยิ่งฮิตใหญ่, เกือบ 2 ทศวรรษผ่านไป Louis Vuitton Men by Kim Jones ก็นำเอากระเป๋ารูปทรง 'ขนมจีบ' หรือที่ต้องเรียกจริงๆว่า 'Epi Noe' สีดำ กลับมาเพิ่มฟังก์ชั่น ให้หนุ่มๆได้ถือคู่กันกับสาวๆในทศวรรษนี้ โดยมีลวดลายเข้ากับนาฬิกา Tambour เรือนใหม่ที่มาพร้อมสายผ้า เห็นได้ว่ามีนาฬิกาหลายแบรนด์ดังลอนช์นาฬิกาสายผ้าตามสไตล์ Nato ออกมาในปีนี้ครับ ^__^

December 13, 2015

Vincent Beier for Maison Margiela


Vincent Beier for
Maison Margiela S/S & Pre-Fall 2016

Vincent Beier กลายเป็นดาวเด่นตั้งแต่ที่โชว์ Maison Margiela S/S 2016 เดินโชว์จบไป แล้วก็ยิ่งดูเป็นที่น่าสนใจมากขึ้นเมื่อ John Galliano ยังคงใช้นายแบบหน้าสวยคนนี้ สำหรับถ่าย Lookbook ให้ Maison Margiela Pre-Fall 2016 ล่าสุด, หลังจากเปิดทางกระแส Androgynous ขนาดนี้แล้ว ต้องคอยดูว่าคอลเล็กชั่น Artisanal Spring 2016 และ Fall 2016 ต้นปีหน้า John Galliano จะยังคงย้ำเทรนด์ให้นายแบบหน้าสวยเฉิดฉายอยู่บนรันเวย์อีกหรือไม่ครับ ^__^

December 12, 2015

Year 2015 : กับ 5 สิ่งของโลกแฟชั่นที่น่าจับตา

ในปี 2015 นี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับโลกแฟชั่น รวมทั้งเหตุการณ์สำคัญๆของโลกที่จะส่งผลโดยตรงต่อระบบแฟชั่นที่จะมีขึ้นในอนาคต ในช่วงครึ่งกลางของทศวรรษที่ 2 ของศตวรรษที่ 21 นี้ถือเป็นอีกปีที่มี่จุดเปลี่ยนผันในโลกของแฟชั่นมากมาย เช่นการโยกย้ายของดีไซเนอร์ประจำห้องเสื้อใหญ่ นับจากช่วงปลาย 90's ที่เคยเกิดเหตุการณ์เล่นเก้าอี้ดนตรีของดีไซเนอร์มากมายขนาดนี้ หรือแม้แต่วิกฤตการณ์เรื่องของค่าเงินที่เคยส่งผลต่อการลดขนาดของโชว์ให้มีโปรดัคชั่นที่เล็กลง รวมทั้งเสื้อผ้าที่ดูเรียบง่ายขึ้นในช่วงปลาย 90's เช่นเดียวกัน ในช่วงปลายปีอย่างนี้ ทาง Opolop Poppy จึงขอรวบรวมเหตุการณ์สำคัญของโลกแฟชั่นในปี 2015 นี้มานำเสนอ 5 สิ่งด้วยกัน และแน่นอนว่า 5 สิ่งที่ว่านั้นจะส่งผลต่อแฟชั่นในอนคตที่จะมีขึ้นในปีหน้า แล้วส่วนตัวก็เชื่อว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโลกแฟชั่นอีกครั้งหนึ่งเลยทีเดียว


การปรับเพิ่มและลดลงของราคาสินค้าแฟชั่น


หลังจากค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงตั้งแต่ปีก่อน จนมาช่วงต้นปี 2015 ที่ค่าเงินยูโรตกลงไปแตะที่ 30 กว่าๆ ทำให้สินค้าแฟชั่นหลายๆรายต่างก็ต้องปรับตัวตามด้วยการเพิ่ม และลดราคาสินค้าของตน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบ อย่างเช่น Chanel ที่มีการปรับเพิ่มราคาสินค้าในส่วนกระเป๋าในฝรั่งเศส และอีกหลายๆประเทศขึ้นอีก เพื่อให้มีราคาใกล้เคียงกันทั่วโลกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันที่ Chanel ในประเทศไทยเอง ก็มีการปรับลดราคาสินค้าลงมา ทำให้บรรดาแฟชั่นนิสต้าแฟนคลับของ Chanel ต่างก็ดีใจกันถ้วนหน้า ซึ่งในเรื่องของการเพิ่มมูลค่าสินค้าในปีนี้ รวมถึงการที่หลายๆแบรนด์ปรับภาพลักษณ์ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างที่ว่านั้นก็คือ Moschino โดย Jeremy Scott ที่ไม่เพียงทำให้ยอดขายของ Moschino เพิ่มสูงขึ้นเท่านั้น แต่ Moschino ในทศวรรษนี้ ยังมีราคาเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับแบรนด์ Moschino เองในช่วงเวลาที่ผ่านๆมา


การกลับมาของกระแสแฟชั่น Androgynous 


ในปี 2015 นี้ถือเป็นอีกปีที่กระแสแฟชั่นในรูปแบบของ Androgynous นั้นมาแรงสุดๆ เพราะหลายๆแบรนด์ใหญ่ทั้ง Gucci, Maison Margiela, Saint Laurent และอีกหลายแบรนด์นำทัพทำให้สไตล์กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง หรือแม้กระทั้งสินค้าแฟชั่นที่เป็น Unisex สไตล์ใส่ได้ทั้งชาย-หญิง ก็มีให้เห็นมากขึ้นจากหลายปีที่ผ่านมา การนำเสนอเสื้อผ้าผู้หญิง อยู่บนเรือนร่างผู้ชายในแฟชั่นเซ็ท และ AD Campaign มีให้เห็นกันมากขึ้น แน่นอนว่าลุคของหนุ่ม Androgynous นั้นไม่ได้หมายความว่าคนที่สวมใส่อาจต้องเป็นเกย์ แม้บางลุคเท่ๆซึ่งดูเยอะเกินจริงทั้งสำหรับหญิงและชายนั้น ดีไซเนอร์ได้แรงบันดาลใจจากการแต่งตัวของเหล่า Drag Queen ก็ตาม แต่ไม่ว่าแรงบันดาลใจมาจากที่ใด จะเป็นแฟชั่นในศตวรรษก่อน หรือคนกลุ่มไหน ในปีที่ความเป็นอิสระเสรีของความหลากหลายทางรสนิยมเปิดกว้างและถูกยกระดับขึ้น ทุกอย่างจึงเชื่อมโยงถึงกัน


การกลับมาของของงานหรูระดับ Couture


อย่างที่เคยเขียนถึงไปในช่วงก่อนหน้าว่า ปี 2015 นี้ เป็นปีที่ต้องจับตาในส่วนของเสื้อผ้าชั้นสูง หรือ Haute Couture จากห้องเสื้อรายใหญ่ เพื่อตอกย้ำถึงงานฝีมือในการสร้างสรรค์อาภรณ์โดยทีมกูตูริเยร์ เพราะไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยผ่านไป เสน่ของ Haute Couture ก็ยังคงเป็นที่สนใจเสมอๆ เริ่มต้นปีด้วยการเจอกับคอลเล็กชั่นที่หลายๆคนรอคอย Maison Margiela 'Artisanal' กับการกลับมาของ John Galliano อดีตกูตูริเยร์แห่ง Dior, ต่อด้วยช่วงกลางปี Haute Couture คอลเล็กชั่นโดย Givenchy หลังจากห่างหายไป 3 ปีก็กลับมาให้แฟนๆได้ชื่นใจกันอีกครั้ง, Karl Lagerfeld และ Fendi ลอนช์ Haute Fourrure และล่าสุดกับ Saint Laurent ก็กลับมาเปิดในส่วนของ Atelier เพื่อสร้างสรรค์ Couture คอลเล็กชั่นอีกครั้ง รายละเอียดและงานเทคนิคเหล่านี้ ส่งผลถึง Ready-to-Wear ของแต่ละห้องเสื้อในปีหน้าเป็นต้นไปอย่างแน่นอน


การโยกย้ายสลับสับเปลี่ยนของดีไซเนอร์


นับตั้งแต่ปลาย 90's ที่มีการสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนดีไซเนอร์ประจำห้องเสื้อใหญ่ ในปี 2015 นี้เราก็ได้เห็นกันอีกครั้ง มีทั้งการโยกย้ายดีไซเนอร์ของแต่ละแบรนด์ ไปจนถึงมีการปิดตัวลงของแบรนด์ต่างๆ อย่างที่เร็วๆนี้คงไม่มีข่าวไหนทำให้หลายๆคนตกใจได้เท่ากับการที่ Raf Simons โบกมือลาจากห้องเสื้อชั้นสูง Christian Dior ต่อมาด้วยการที่ Alber Elbaz ออกจาก Lanvin หลังจากที่ร่วมงานกันมายาวนานข้ามทศวรรษ หรือการประกาศปิดแบรนด์ต่างๆซึ่งมีให้เห็นในปีนี้ เช่นการที่ Kris Van Assche ประกาศปิดแบรนด์ของตัวเอง และการที่ Marc Jacobs ทำให้แฟนๆของ Marc by Marc Jacobs ต้องแปลกใจ เมื่อแบรนด์แฟชั่นสนุกๆของใครหลายคนเป็นอันต้องปิดตัวลงในปีนี้ ทั้งหมดเกิดขึ้นในยุคที่การแข่งขันด้านธุรกิจของสินค้าแฟชั่นนั้นสูงสุดโต่ง ผลประกอบการเป็นตัวผลักดันให้หลายๆกลุ่มสินค้าแฟชั่นปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย


การร่วมเป็นกำลังใจให้แก่กันและกัน


การก่อการร้ายครั้งร้ายแรงที่สุดหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ของกรุง Paris ปลายปีนี้ ทำให้นึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ 9/11 เมื่อช่วงต้นศตวรรษที่ 21 หลายๆคนบนโลก ไม่ว่าจะทำอาชีพใด ไม่ว่าจะเป็นคนเชื้อชาติใด ต่างก็ร่วมเป็นกำลังใจแก่กันและกัน ยิ่งมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในเมืองแฟชั่นโลกอย่าง Paris ด้วยแล้วนั้น แฟชั่นดีไซเนอร์แต่ละห้องเสื้อต่างก็โพสให้กำลังใจและส่งกำลังใจแก่ผู้ที่ประสบภัยกันอย่างถ้วนหน้า ซึ่งถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 2001 หลังจากเกิดเหตุการณ์ 9/11 แฟชั่นจากหลายๆแบรนด์ไอคอนประจำ New York ต่างก็ไว้อาลัย และนำเสนอแฟชั่นซึ่งดูเรียบง่าย ดูสงบนิ่ง ไม่ฉูดฉาดมากนัก (ในตอนนั้น Rick Owens งดโชว์ฤดูกาล S/S 2002) แต่ในฟากฝั่งของฝรั่งเศส เชื่อว่าห้องเสื้อใหญ่ประจำ Paris จะร่วมเป็นกำลังใจด้วยการสร้างสีสันให้ Paris กลับมาคึกคักอีกครั้ง เช่นที่ทุกคนบอกว่า Stay 'Strong' Paris ครับ ^__^

(รูปภาพ : opoloppoppy)

Maison Margiela Pre-Fall 2016



Maison Margiela 
Pre-Fall 2016

December 10, 2015

Dior ยังคงใช้ In-House Team ในการออกแบบไปอีก 2 คอลเล็กชั่น


แฟนๆของ Dior ที่คงกำลังลุ้นอย่างใจจดใจจ่อว่าใครจะมารับตำแหน่ง Creative Director คนต่อไป ก็คงต้องอดใจรอกันต่อไปอีกสักระยะ เมื่อทาง LVMH ออกมาประกาศแล้วว่า 2 คอลเล็กชั่นหน้าทั้ง F/W 2016 และ Haute Couture Spring 2016 จะเป็นการออกแบบโดย In-House Team ของ Dior เอง ก็เพื่อต้องการใช้เวลาในการสรรหาดีไซเนอร์ที่คู่ควร ^__^

December 09, 2015

Chanel J12 G10 2015 เมื่อนาฬิกา Chanel มาพร้อมสาย Nato


Chanel J12 G10 Watches
with Nato Straps

เห็นชื่อ Chanel แล้วตามด้วยเลขรหัสยาวเหยียดขนาดนี้ ก็เพราะว่าในปี 2015 ทาง Chanel ฉลอง 15 ปีให้กับนาฬิกา Unisex รุ่นยอดนิยมตลอดกาล 'J12' ซึ่งลอนช์ออกมาตั้งแต่ปี 2000 ส่วนตัวเลขรหัส G10 ด้านหลังนั้นคือเลขรหัสในการเบิกสต็อคชื่อ 'Nato G10' เพื่อเบิกเอาสายไนลอนสำหรับกองทัพอังกฤษใช้สวมใส่เมื่อออกปฎิบัติการในยุคก่อน ดังนั้นนาฬิกา Chanel J12 G10 สำหรับปี 2015 รุ่นนี้ จึงมาพร้อมกับสาย 2 สาย ทั้งสายหนังจระเข้ดูหรูหรา และสายผ้า Nato ให้ลุคสปอร์ตและดูเท่ สลับสับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์ในแต่ละวัน มีให้เลือกด้วยกัน 2 สี น้ำเงิน และเทา พร้อมระบบ Automatic กันน้ำ 200 เมตร และตัวเรือน Titanium ^__^

MCM Spring/Summer 2016 "Munich Disco Days" Collection



MCM Spring/Summer 2016
Munich Disco Days Collection

December 08, 2015

Chanel : Inside the Maisons d’Art for the Paris in Rome Pre-Fall 2016


หนุ่มๆ Androgynous ของ Chanel Pre-Fall 2016


นับตั้งแต่ที่ Chanel ได้แทรก Menswear เอาไว้ในโชว์ของสาวๆเมื่อทศวรรษก่อน โดยที่ก่อนหน้านี้ Chanel Homme Fall 2004 คือหนึ่งใน Menswear ของ Chanel ซึ่งส่วนตัวชื่นชอบมากที่สุด ด้วยลุคของหนุ่มๆ Androgynous ที่มาพร้อมกับแจ็กเก็ตทวีต และเครื่องประดับทั้งเข็มกลัด และเข็มขัดสายโซ่ ที่สามารถใช้ให้เป็น Unisex สไตล์ สวมใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แล้วนับจากนั้นเป็นต้นมา เสื้อผ้าสำหรับผู้ชายของ Chanel ในแต่ละคอลเล็กชั่นที่นำเสนอออกมานั้นก็มีที่ดูแล้วชื่นชอบบ้าง และไม่ชอบบ้าง จนมาถึงในฤดูกาลล่าสุด Pre-Fall 2016 ที่ Menswear ของ Chanel ทำให้เกิดอาการตกหลุมรัก Menswear แบรนด์นี้ขึ้นอีกครั้ง


Menswear ของ Chanel ในแต่ละฤดูกาลคือการผสมผสานแฟชั่นของผู้หญิงและผู้ชายเข้าไว้ด้วยกัน การนำรายละเอียดของชุดผู้หญิงทั้งวัสดุ, เทคนิคการตัดเย็บ และการตกแต่งมาปรับใช้ในส่วน Menswear เช่นเดียวกับที่ Chanel นำรายละเอียดจากชุดของหนุ่มๆไปปรับใช้ใน Womenswear เสมอมา ซึ่งในส่วนของ Menswear ของ Chanel Pre-Fall 2016 ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น แต่คราวนี้ดูเรียบง่าย ไม่ต้องเน้นรายละเอียดวุ่นวายเช่นในบางคอลเล็กชั่น เพียงแค่การเลเยอร์ริ่งชุดตัวใน ตัวนอก สร้อยคอซิกเนเจอร์ของแบรนด์ และโชว์ความสวยงามของวัสดุและการตัดเย็บ เพียงเท่านี้หนุ่มๆ Androgynous ก็ดูดีได้ในแบบฉบับของ Chanel ^__^

December 07, 2015

คุณสมบัติที่ Fashionista แห่งทศวรรษนี้ควรมี

ไดอารี่เรื่องราวเกี่ยวกับแฟชั่นวันนี้ขอเขียนถึงเกี่ยวกับ 'Fashionista' คำคุ้นตาและคุ้นหูที่คนชื่นชอบแฟชั่น และเสพสื่อแฟชั่นต่างๆจากทั่วโลกคงต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะ 'Fashionista' นั้นคือคำที่คนทั่วไปในสังคม มักใช้เรียกผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นเป็นชีวิตจิตใจ มีไลฟ์สไตล์การเสพสิ่งต่างๆที่ดูทันสมัยอยู่ตลอดเวลา แล้วเมื่อพูดถึง 'Fashionista' ก็ย่อมมาคู่กันกับงานสัปดาห์แฟชั่นหรือที่เรียกกันติดปากว่า Fashion Week ก็เพราะสัปดาห์แฟชั่นในแต่ละฤดูกาลคืองานใหญ่ประจำปีที่มีแรงดึงดูดชั้นดีในการเรียกเหล่า 'Fashionista' มารวมกัน เพื่อชื่นชมงานผลสร้างสรรค์จากนักออกแบบที่ชื่นชอบ ในขณะที่เรากำลังอยู่ในช่วงครึ่งกลางทศวรรษที่สองของศตวรรษที่ 21 จึงขอมาบอกเล่าถึงคุณสมบัติเด่นของ 'Fashionista' ที่ได้พบเจอและอยากให้อยากให้แฟชั่นนิสต้าในเมืองไทยเป็น นอกจากสิ่งเหล่านี้คือคุณสมับติที่ดีแล้ว ยังเป็นบรรทัดฐานที่ดีต่อๆไปในอนาคต สำหรับเหล่า 'Fashionista' ผู้ชื่นชอบแฟชั่นรุ่นใหม่ๆอีกด้วย

Fashionista และเรื่องของเวลา


เรื่องของการรักษาเวลาเป็นอีกมารยาททางสากลที่เข้าใจกันทั่วโลก ถึงแม้กว่าที่โชว์จะเริ่มอาจมีการเสียเวลาตามแต่ละปัจจัยที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องของการจัดตกแต่งสถานที่, แขกระดับ VIP ไม่สามารถมาทันตามตารางเวลาด้วยปัญหาต่างๆ แต่เหล่า Fashionista ที่มีแพลนไปให้กำลังใจดีไซเนอร์ซึ่งชื่นชอบอยู่แล้วก็ควรไปให้ตรงหรือก่อนเวลาที่โชว์จะเริ่ม เพราะนอกจากเป็นการให้เกียรติผู้จัดงาน, ไม่ต้องเดินผ่านข้ามผู้อื่นขณะนั่งเตรียมพร้อมดูโชว์ ไม่เป็นการสร้างความรำคาญ และเป็นการประจานตัวเอง ในยุคที่หลายโชว์มีการถ่ายทอดสดแบบออนไลน์ เพราะแม้จะเป็นรายใหญ่ระดับ A-List แต่หากไม่รักษาเวลาก็มีสิทธิ์โดนแซวและอาจถึงขั้นโห่โดยเหล่าช่างภาพได้เช่นกัน หนึ่งในตัวอย่างที่ว่านั้นซึ่งเพิ่งผ่านพ้นไป คือการที่ไอดอลคนดังของจีนเข้าร่วมชมโชว์ Versus SS 2016 หลังจากที่โชว์เริ่มไปแล้ว และภาพของไอดอลคนดังเดินตัดรันเวย์และดีไซเนอร์ที่นั่งอยู่ ก็ดูเป็นที่ถูกพูดถึงในทางลบ ทั้งจากสื่อจีน และจากสื่อประเทศต่างๆ


Fashionista ดูแล้วเฟรนด์ลี่น่ารัก


ที่บอกว่า Fashionista ดูแล้วเฟรนด์ลี่น่ารัก ไม่ได้ต้องการแนะนำให้เหล่า Fashionista ลุกขึ้นมาใส่ชุดสีพาสเทลหวานแหวว หรือพร้อมใจกันแต่งหน้าสายแบ๋วเพื่อไปดูโชว์ แต่การที่ดูแล้วเฟรนด์ลี่น่ารักนั้นสามารถสื่อผ่านออกมาได้ทั้งสายตา ภาษากาย และการวางตัว เพราะภาพของ Fashionista ที่มาพร้อมท่าเดินเชิดหน้า 45 องศา มีทั้งสายตาและท่าทางซึ่งดูไม่เป็นมิตรอย่างในละครทศวรรษก่อนๆ เป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่หาได้น้อยจาก Fashion Week ในเมืองแฟชั่นใหญ่ๆของโลกตอนนี้ เพราะจากประสบการณ์ตรงที่ได้พบเจอ หลังจากที่ได้ไปร่วมงานสัปดาห์แฟชั่นของเมืองอื่นทั้งในเอเชีย และยุโรป เหล่าแฟชั่นนิสต้าที่มารอให้กำลังใจดีไซเนอร์ที่ชื่นชอบ ต่างพร้อมเปิดรับผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นแนวเดียวกันเข้ามาเป็นเพื่อน ไม่ว่าเคยรู้จักมาก่อนหรือไม่ แต่ภาษากายที่ส่งผ่านพร้อมรอยยิ้ม การทักทาย เพียงเท่านี้ก็จะสร้างมิตรภาพใหม่ๆ พร้อมการแลกเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อโลกแฟชั่น ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้หากมีท่าทางที่ดูปิดกันดูไม่เป็นมิตร


Fashionista กับการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันและกัน


การที่จะขอบัตรเข้าชมโชว์ต่างๆในงานสัปดาห์แฟชั่นรายใหญ่ๆระดับโลกนั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เพราะหากไม่ได้เป็นลูกค้าคนสำคัญ, ทำงานอยู่ในนิตยสารแฟชั่น(และนิตยสารที่มีชื่ออื่นๆ), ซุปเปอร์แฟชั่นนิสต้า, Buyer เจ้าประจำจากบริษัทรายใหญ่ หรือรู้จักกับคนจากในแบรนด์นั้นแล้ว โอกาสที่จะได้บัตรเข้าไปดูโชว์ที่ต้องการนั้นมีน้อยสุดๆ แต่สำหรับเมืองไทย ตั้งแต่ในทศวรรษก่อนจนถึงปัจจุบันนี้มีการแจกบัตรสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าชมแฟชั่นโชว์ในช่วง Fashion Week ด้วยกันหลายๆช่องทาง หากต้องการนั่งชื่นชมผลงานของนักออกแบบคนโปรดแบบสดๆในโชว์จึงดูไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป  แต่หากใครซึ่งมีบัตรสำหรับเข้าชมแฟชั่นโชว์อยู่แล้ว แล้วก็มีจำนวนมากพอที่จะแบ่งปันกัน นั่นก็เป็นเรื่องดีๆที่สมควรทำ ไม่ว่าจะรู้จักกันมาหรือไม่แต่น้ำใจที่มีจะสร้างมิตรภาพดีๆได้เช่นเดียวกัน เพราะบัตรเข้าชมแฟชั่นโชว์ไม่ได้มีเพียงไว้อวดลง Instagram และ Facebook เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้อื่นชื่นชมน้ำใจที่เจ้าของบัตรมีและรู้จักแบ่งปันได้อีกด้วย


Fashionista ควรสนับสนุนนักออกแบบที่ชื่นชอบ


หากเปรียบโลกแฟชั่นเป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่ Fashionista ก็คือหนึ่งในฟันเฟืองชิ้นสำคัญ ซึ่งช่วยผลักดันให้เครื่องจักรชิ้นนี้ทำงานและเดินหน้าได้ต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ Fashionista ทั่วฟ้าเมืองไทยและในเมืองอื่นๆของโลกต่างก็สนับสนุนดีไซเนอร์ที่ตัวเองชื่นชอบอยู่ตลอดเวลา ในยุคที่มีช่องทางสื่อสารบนโลกโซเชียลมากมายขนาดนี้ การที่ช่วยแชร์ เผยแพร่ข้อมูลต่างๆซึ่งดีไซเนอร์ต้องการนำเสนอก็คือการช่วยประชาสัมพันธ์ในแบบที่ Fashionista นั้นทำได้อย่างง่ายที่สุด แต่เมื่อมาพร้อมกับการอุดหนุนผลงานที่ชื่นชอบด้วยแล้ว นอกจากได้ผลงานที่ชื่นชมมาใส่สมใจหมาย ยังเป็นการต่อยอดให้นักออกแบบมีกำลังในการสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นต่อๆไปออกมา ขณะที่เราอยู่ในยุคที่การแข่งขันทางด้านธุรกิจของการทำเสื้อผ้าสูงสุดโต่งขนาดนี้ เชื่อว่าดีไซเนอร์ทุกๆคน ต่างก็ต้องการกำลังใจจาก Fashionista ที่เป็นแฟนคลับของตัวเองอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นอีกกำลัง(อย่างน้อยก็เป็นกำลังใจ)สำคัญที่มีต่อการสร้างสรรค์ผลงานดีๆ

Fashionista ควรเป็นตัวของตัวเอง


เมื่อสินค้าแฟชั่นคือหนึ่งในเครื่องมือสะท้อนตัวตนของคนที่สวมใส่ ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย การพบแนวทางที่ชื่นชอบนั้นเป็นสิ่งที่สมควรทำเสมอ ^__^

(รูปภาพ : opoloppoppy)

December 04, 2015

COMME des GARÇONS x Gucci for Christmas 2015


ช่วงปลายปีที่มีเทศกาลเฉลิมฉลอง ลากยาวไปถึงปีใหม่อย่างนี้ Comme des Garcons ก็มีสินค้าคอลเล็กชั่นพิเศษออกมาเอาใจแฟนๆเช่นเคย โดยคอลเล็กชั่นสำหรับ Christmas 2015 ในชื่อว่า ''Red Celebration Action & Energy'' ที่มีสีแดงเป็นสีหลักของคอลเล็กชั่นนั้น มีไอเท็มให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งคาร์ดิแกนไว้ใส่รับลมหนาว, เสื้อยืด Play กับหัวใจซิกเนเจอร์สีแดงน่ารักๆ, Backpack ใบเท่ที่ดูเข้าคู่กัน ซึ่งทั้งหมดนั้นมีให้จับจองกันแล้วในตอนนี้

คอลเล็กชั่น ''Red Celebration Action & Energy'

Backpack ใบเท่สำหรับ Christmas 2015 

แต่ชิ้นที่พิเศษสุดๆก็ต้องขอยกให้กับผ้าพันคอ Comme des Garcons x Gucci กับการร่วมงานของสองแบรนด์ดังในการออกแบบผ้าพันคอสุดพิเศษ สำหรับช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองของปี 2015 มีวางจำหน่ายเพียง 5 ประเทศทั่วโลก และเมืองไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งร้าน Comme des Garcons สาขา Erawan Bangkok มีด้วยกัน 30 ผืน ในราคาผืนละ 33,500 บาท เป็นอีกชิ้นที่แฟนๆของ Comme des Garcons และ Gucci ไม่ควรพลาด ^__^

Comme des Garcons x Gucci Scarves

ลวดลายที่สวยงามของผ้าพันคอชิ้นพิเศษ

December 01, 2015

MOSCHINO at Zen Luxury Clearance Sale Up to 80% !


วันนี้เป็นวันที่ 6 ของงานลดราคาสินค้า Zen Luxury Clearance Sale ซึ่งลดกันสูงสุดที่ 80% แต่วันนี้เป็นวันแรก ที่สินค้าจากไลน์หลัก Moschino เข้าวางจำหน่ายร่วมในงานนี้ มีทั้งกระเป๋า Moschino ใบเด่นอย่างที่เห็นได้จากรันเวย์เปิดตัว Jeremy Scott ไปจนถึงเสื้อผ้าในไลน์ Moschino Couture! ได้ลุคหรูอย่างคุณนาย Chanel ตามสไตล์ที่ Moschino นั้นเสียดสีเสมอมา ซึ่งแน่นอนว่าแฟนๆของ Moschino ไม่ว่าจะเป็น Love Moschino ซึ่งจำหน่ายในงานตั้งแต่วันแรก หรือคนที่รอไลน์หลัก Moschino ต้องไม่พลาด โดยงานจะมีไปจนถึงวันที่ 9 ธันวาคมนี้

Moschino Mini Bag สำหรับผู้หญิงและผู้ชาย

Moschino Mini Bag สีแดงเข้าคู่กับ Chanel ใบเก่า

ส่วนตัวนั้นเคยเล็งกระเป๋า Moschino Tiny กระเป๋า Mini Bag ใบจิ๋วๆ เอาไว้คล้องคอและคาดเอวทั้งสำหรับผู้หญิง และผู้ชาย(เห็นได้จากรันเวย์ทั้งคู่)เอาไว้ตั้งแต่ต้นปีที่ฮ่องกง แต่เมื่อพลิกดูราคาแล้วก็ปรากฏว่าราคาไม่เล็กจิ๋วอย่างไซส์ของกระเป๋า จึงต้องตัดใจไปในตอนนั้น แต่เมื่อวันนี้มีกระเป๋าใบนี้มาร่วมอยู่ในงานลดราคาด้วย จึงต้องรีบคว้าเอาไว้ด้วยราคาที่ลดไปเยอะมากๆ ทำให้กระเป๋าใบนี้มีราคาที่แตกต่างจากราคาเต็มพอสมควร แล้วก็เป็นใบที่เคยเล็งไว้ตั้งแต่ต้นปี(จนลืมไปแล้วว่าอยากได้)เมื่อมาเห็นอยู่ในงานคราวนี้ จึงไม่พลาดแน่นอน ^__^

STYLENANDA Grand Opening @ Siam Paragon



STYLENANDA
Grand Opening at Siam Paragon

Dior Holiday Lights


November 29, 2015

Moulin Rouge 2015


เวลา 1 ศตวรรษผ่านไปไวจนเผลอแป๊ปเดียวในปีนี้ก็ครบรอบ 100 ปีของเหตุการณ์ไฟใหม้ครั้งใหญ่ของ Moulin Rouge ในปี 1915 (หลังจากเปิดบริการในปี 1889) และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ Moulin Rouge ในศตวรรษที่ 21 ก็ยังคงยืนหยัดจัดโชว์สำหรับน้องท่องเที่ยวที่มาเยือน Paris และ 'กังหันแดง' หนึ่งในแลนด์มาร์กขึ้นชื่อจากอิทธิพลของภาพยนต์ดังในชื่อเดียวกันเมื่อปี 2001 ซึ่งทุกวันนี้หากใครที่มีแพลนจะเข้าชมโชว์ระดับตำนาน ก็คงต้องเตรียมตัวและเผื่อเรื่องเวลากันสักหน่อย แต่อย่างน้อยการได้ยืนคอยก็ได้ชื่นชมบรรยากาศที่คึกคักภายนอกอย่างดีทีเดียว 

บรรยากาศคึกคักหน้า Moulin Rouge

Gaultier Paris Spring 2011 / Gaultier Paris Fall 2000

เมื่อพูดถึง Moulin Rouge แล้วก็ต้องนึกถึงระบำ CanCan เลื่องชื่อ และทำให้นึกเลยไปถึงชุดระบำ CanCan อันโด่งดังของ Gaultier Paris (Haute Couture) Spring 2011 รวมไปถึงสีสันยามค่ำคืนของ Paris ที่สื่อผ่านผลงานสำหรับเสื้อผ้าชั้นสูง Gaultier Paris Fall 2000 คอลเล็กชั่นซึ่งประดับประดาชุดราตรีของ Jean Paul Gaultier ที่แสดงถึงสมยานาม 'นครแห่งแสงไฟ' ของปารีสได้เป็นอย่างดี เพราะว่า Paris นั้นไม่เคยหลับไหล แม้บางครั้งมีช่วงที่แสงไฟมืดสลัวไปบ้าง แต่ก็จะกลับมาสว่างสดใสอย่างเช่นดังเดิม, Love You ^__^


November 26, 2015

GUCCI Spring/Summer 2016, Watches



GUCCI Spring/Summer 2016
Men & Women Watches

ในขณะที่ Gucci นำเสนอ Cuff Watch รุ่นล่าสุดไว้บนรันเวย์ของ Mens Collection S/S 2016 ในฝั่งของสาวๆนอกจาก Accessories ชิ้นเล็กชิ้นน้อยทั้งแหวน สร้อย ต่างหูที่ดูเป็นดาวเด่นแล้ว ก็มีนาฬิกาที่นำสีสัญลักษณ์เขียว-แดงมาใช้ในรูปแบบของกำไลก็ดูน่าสนใจเช่นกัน ซึ่งคงต้องมาดูว่าเมื่อถึงฤดูกาลวางจำหน่ายจริงในช่วงต้นปีหน้า นาฬิกา Gucci โดย Alessandro Michele นั้นจะกระแสดีอย่างที่นาฬิกา Gucci รุ่นก่อนๆได้รับความนิยมมากๆหรือไม่ ^__^

Exclusive Preview : H&M Studio Spring/Summer 2016













Me in H&M Studio S/S 2016
Exclusive Preview in Bangkok

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...