Romeo + Juliet + Prada + D&G + Versace

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อของกวีและนักเขียนบทละครชาวอังกฤษชื่อดัง 'วิลเลียม เชกสเปียร์' (William Shakespeare) แม้ไม่มีหลักฐานบันทึกการเกิดที่แน่ชัด แต่เชกสเปียร์ได้เข้าพิธีตั้งชื่อที่โบสถ์โฮทรินิติ้ เมื่อวันที่ 26 เมษายน ปีค.ศ. 1564 นั่นจึงทำให้นักวิชาการด้านวรรณกรรมและการละคอนอนุมานให้วันที่ 23 เมษายนเป็นวันเกิดของเขา โดยมีวัตถุประสงค์ก็เพื่อให้พ้องกับวันตาย 23 เมษายนปีค.ศ.1616 ดังนั้นเนื่องในโอกาสที่เมื่อวานนี้ครบ 456 ปีวันรับศีลของ 'วิลเลียม เชกสเปียร์' จึงขอนำบทความของเว็บไซต์ The Standard เมื่อปีที่ผ่านมามาโพสต์อีกครั้ง ว่าด้วยการถอดรหัสเครื่องแต่งกายของภาพยนตร์ดังแห่งยุค 90s ที่ดัดแปลงมาจากบทประพันธ์ชั้นยอดของเชกสเปียร์ Romeo + Juliet (1996) และกลับมาสร้างเทรนด์การแต่งกายในหมู่วัยรุ่นเมื่อไม่นานมานี้ แล้วจะทราบว่ากว่าจะมาเป็นคอสตูมสำหรับซีนเด่นระดับตำนานนั้นผ่านการคิดมาเป็นอย่างดี และทำไมถึงต้องพ่วงด้วยชื่อแบรนด์ดัง Prada, D&G และ Versace 

> The Standard Pop : Romeo + Juliet 1996 <

Happy 68th Birthday 'Jean Paul Gaultier'

London Fashion Week จะปรับโฉมเป็น Digital Fashion Week

สมาพันธ์แฟชั่นกรุง London ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า งานสัปดาห์แฟชั่นของของลอนฤดูกาลหน้าจะปรับโฉมเป็น Digital Fashion Week อย่างที่ประเทศจีนเพิ่งทำไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา อีกทั้งยังควบรวมแฟชั่นวีคของชายและหญิงเข้าด้วยกัน

McQueen Creators by Simon Ungless

ในช่วงนี้กิจกรรมชาเลนจ์ทำผลงานเพื่อนำไปโชว์บนโซเชียลมีเดียของแต่ละแบรนด์ได้รับความนิยมมาก ชอบผลงานชิ้นนี้ของนักออกแบบอิสระชื่อ Simon Ungless ในแคมเปญ #McQueenCreators โดยเจ้าตัวได้แรงบันดาลใจมาจากชงานมาสเตอร์พีซในคอลเล็กชั่น Givenchy Haute Couture ฤดูร้อนปี 2000 ซึ่งต้นฉบับที่ Lee McQueen และ Shaun Leane ร่วมกันรังสรรค์เพื่อกูตูร์ Givenchy เมื่อ 20 ปีที่แล้วนั้นเป็นโลหะ แต่ของ Simon Ungless เป็นลาเท็กซ์

Happy 76th Birthday 'Michèle Lamy'

ขอสุขสันต์วันคล้ายวันเกิดในปีที่ 76 ของขุ่นแม่ Michèle Lamy ภรรยาสุดที่รักของ Rick Owens ผู้เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกๆ 'สายดาร์ก' ทั่วโลก

30 ปีของราชินีเพลงป็อปและบรากรวยแหลม

วันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ครบรอบ 30 ปีของ Blond Ambition World Tour หนึ่งในทัวร์คอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของราชินีเพลงป็อป 'Madonna' กินระยะเวลาทั้งหมดนาน 4 เดือนตั้งแต่ 13 เมษายนปี 1990 ในจังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ไปสิ้นสุดลงวันที่ 5 สิงหาคมปี 1990 ในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ทำเงินรวมไปทั้งสิ้น 62.7 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงเวลานั้น หรือถ้าหากแปลงเป็นค่าเงินในช่วงเวลาปัจจุบันก็คือราวๆ 122.7 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ

หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้คอนเสิร์ต Blond Ambition World ถูกพูดถึง และเป็นที่จดจำไปทั่วโลกนั่นคือคอสตูมที่เป็นผลงานการออกแบบของ Jean Paul Gaultier ซึ่งก่อนที่เธอจะเลือกให้ฌอง-ปอลเป็นคอสตูมดีไซน์เนอร์นั้น Madonna น่าเคยชมแฟชั่นโชว์ และส่งจดหมายส่วนตัวเพื่อชื่นชมผลงานของฌอง-ปอลมาแล้วครั้งหนึ่งในช่วงปลายยุค 80's ซึ่งถือเป็นยุคทองของแบรนด์ Jean Paul Gaultier ด้วยความที่ทั้งคู่มีแนวคิดขบถและรักการเสียดสีสังคม จึงดูราวกับเป็นสองคนสร้างสรรค์ที่เกิดมาเติมเต็มกันและกัน

คอสตูมชิ้นเด่นเป็นที่น่าจดจำอย่าง 'Cone Bra' หรือบรากรวยแหลมทั้งสีชมพูและสีทองที่ฌอง-ปอล ได้แรงบันดาลใจมาจากคอร์เซ็ทของสตรีชาวฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18 และยกทรงหัวกระสุน (Bullet Bra) ของสาวๆในยุค 50s ยุคที่หนุ่มๆกำลังคลั่งไคล้สาว Pin-Up และเครื่องแต่งกายชิ้นนี้ทำหน้าที่ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็น #วัตถุทางเพศ กลายเป็นที่ถูกพูดถึงทันทีที่ลุคนี้เปิดตัวบนเวทีคอนเสิร์ต และกลายเป็นหนึ่งในภาพจำเมื่อแฟนๆนึกถึงราชินีเพลงป็อป

รูปประกอบ : รูปถ่ายจากนิทรรศการของ Jean-Paul Gaultier ในกรุงปารีสปี 2015

Covid-19 ดับแพลนเปิดร้านใหม่ของ Versace

Covid-19 ส่งผลกระทบกับแพลนเดิมของ Versace ที่จะเปิดสโตร์แห่งใหม่สองที่ในช่วงปลายปีนี้ ที่แรกคือบนถนน Saint-Honoré ในกรุงปารีส และที่สองคือ New Bond Street ในกรุงลอนดอนเมื่อก่อน Gianni Versace เคยมีร้านหลักในกรุงปารีสอยู่ที่ Saint-Honoré นี่แหละ (รูป 1-2) เป็นร้านที่เน้นไลน์ระดับบนเช่น Atelier Versace, Gianni Versace และ High Jewelry มีส่วนรับรองลูกค้าที่จะมาใช้บริการสั่งตัดโดยเฉพาะ แต่ปิดไปในช่วงกลางยุค 2000s

... ชาเย็น ...

วันนี้ขอโพสต์อะไรที่อิงกระแสสงครามทวิตเตอร​์ระหว่าง กองกำลัง 'ชานม' และมหาอำนาจ 'ชาขม'

ด้วยการเขียนถึง 'ชาเย็น' สักหน่อย แต่การเขียนถึงคราวนี้ก็เพราะคิดถึงร้านชาเจ้าประจำหลายร้านที่ปิดไปชั่วคราวบ้าง ถาวรบ้าง เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 ไม่ได้เขียนเพื่อต้องการโจมตีประเทศใดประเทศหนึ่ง ถึงแม้ว่าตัวข้าพเจ้าจะเลือกรักชานมมากกว่าชาขมเพราะรสชาติที่ถูกปากกว่าก็ตาม ข้าพเจ้าเป็นคนที่ชอบดื่ม 'ชาใส่นม' มาตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่สามารถพูดว่าชอบตั้งแต่จำความได้ เพราะก่อนที่จะมาพบคำตอบสุดท้ายว่าเครื่องดื่มที่รักมากที่สุดในชีวิต คือ 'ชาเย็น' นั้นได้มีการลองผิดลองถูกกับเครื่องดื่มอื่นมาแล้วทั้งโอเลี้ยง ชาดำเย็น โอวัลตินเย็น นมเย็น เป็นต้น ดังนั้นการที่ได้ดื่ม 'ชาเย็น' หรือเจ้าชาใส่นมสีส้มสดใส จึงไม่ใช่เป็นเพียงแค่การดื่มเพื่อดับกระหาย แต่การได้ดื่มชาเย็นในแต่ละครั้งยังเป็นการสะกิดให้ต่อมความคิดถึงทำงาน 'ชาเย็น' จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้หวนรำลึกถึงความสุขครั้งวันวาน ทำให้ได้รับผลกระทบในเชิงบวกจากอาการ 'นอสตัลเจีย' (Nostalgia) หรือการถวิลหาความสุขบนความทรงจำได้ด้วยเจ้าน้ำสีส้มนี้

แต่ไม่เพียงเท่านั้น สำหรับข้าพเจ้าแล้วยังใช้ 'ชาเย็น' เป็นตัวแทนทางวัฒนธรรมในฐานะ 'ของดี' ที่ใช้รับแขกบ้านแขกเมืองเมื่อเพื่อนต่างชาติมาเยือน เพราะไว้วางใจและมั่นใจว่าสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในรูปแบบเครื่องดื่มจะสามารถทำให้ผู้คนประทับใจได้ไม่ยาก แล้วผลก็ออกมาเป็นเชิงบวกแทบทุกครั้ง ดังนั้นในปัจจุบันนี้ เมื่อเพื่อนๆต่างชาติมาเมืองไทยจึงมี 'ชาเย็น' เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่พวกเค้าเหล่านั้นมักสั่งอยูเสมอ และไม่ใช่เป็นการสั่งเพราะรู้สึกเกรงใจข้าพเจ้า แต่เป็นเพราะ 'ชาเย็น' ของพวกเรามีรสชาติถูกใจคนทั่วโลก ดังที่มีผลสำรวจจากหลายสำนักจัดอันดับให้ชาเย็น / ชาใส่นม / ชาสีส้มที่รู้จักันในนาม "Thai Tea" ติดอันดับ 'เครื่องดื่มที่รสชาติเยี่ยมที่สุดในโลก'

มรดกทางวัฒนธรรมที่มาในรูปแบบเครื่องดื่มที่เรียกว่า 'ชาเย็น' มีให้เลือกหลายราคาตั้งแต่ 20 บาทจากร้านรถเข็นข้างทาง ไปจนถึงหลักร้อยที่อยู่บนห้างดังๆ ยังให้อารมณ์หรูหราไม่แพ้เครื่องดื่มราคาสูงหลากชนิด เพราะหากศึกษาประวัติศาสตร์ 'ชาเย็น' แล้วจะพบว่า การที่เราเริ่มดื่มชามาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนกระทั่งในสมัยรัชการที่ 5 เริ่มพัฒนารูปแบบของเครื่องดื่มซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากจีนด้วยการเพิ่มนมข้นหวานเข้าไปนั้น แรกเริ่มเดิมทีได้รับความนิยมในหมู่ราชการ ซึ่งถือเป็นกลุ่มบุคคลชั้นนำของประเทศ ก่อนที่จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายดังที่เห็นในปัจจุบัน จึงอาจเรียกได้ว่า 'ชาเย็น' เป็น 'เครื่องดื่มผู้ดี' ที่เพิ่มความหวานและความสุขให้ชีวิตอย่างมีระดับ ไม่แพ้การได้ดื่มด่ำกับรสชาติ 'ไวน์' และ 'มาการอง' ของฝรั่งเศสเลยทีเดียว

ดังนั้นด้วยความที่รักชาเย็นหรือชาใส่นมมากๆ เวลาไปต่างประเทศโดยเฉพาะกับประเทศที่หาชานมดื่มยาก ข้าพเจ้าก็จะต้องชงเอง หรือไม่ถ้าไปร้านสะดวกซื้อแล้วพบชานมกระป๋องที่รสชาติพอถูกปากก็จะซื้อทีเดียวหลายกระป๋องติดตู้เย็นไว้ เพราะการได้ดื่มชาใส่นมในแต่ละมื้ออาหารเป็นการเพิ่มพลังให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย เช่นในตอนนี้ที่ขาพเจ้ากำลังเขียนอะไรร่ายยาวพร้อมๆกับการทานอาหารเช้าและดื่มชานมไปด้วย แต่เป็นชานมบรรจุขวดที่เพิ่งไปซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดัง โดยที่หวังแต่ว่าร้านชาเจ้าประจำจะกลับมาเปิดไวๆ เพื่อที่ข่สพเจ้าจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันปราศจากโควิด พร้อมกับดื่มเครื่องดื่มที่รักมากที่สุดในโลก "ชาเย็น"

การปฏิวัติฝรั่งเศส 1789

เมื่อคืนนี้เห็นแฟนเพจ Shades of Fashion แชร์รูปโชคเกอร์มุกและลูกปัดสีแดง (รูปแรก) จึงทำให้นึกถึงคอลเล็กชั่นชั้นสูงประจำฤดูร้อน 2006 ของ Dior ที่เป็นผลงานการออกแบบของอดีตครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ 'John Galliano' เพราะโชคเกอร์เส้นที่ออกแบบโดย Hell’s Belle Designs นี้เป็นการทำเลียนแบบโชคเกอร์ที่ใช้บนรันเวย์ แต่ใช้วัสดุที่มีราคาถูกลงมาจึงทำให้โชคเกอร์ของทาง Hell’s Belle Designs มีราคาค่าตัวอยู่ที่ $160 เท่านั้น

และเมื่อพูดถึงคอลเล็กชั่น Haute Couture ของ Dior ในฤดูกาลนั้นแล้วก็ต้องพูดถึงตัวเลข 1789 ที่เพนท์บนคอนางแบบ เพราะตัวเลขนี้คือปีค.ศ. 'การปฏิวัติฝรั่งเศสครั้งใหญ่' ทำให้ผลงานในคอลเล็กชั่นเต็มไปด้วยการใช้สีแดงทั้งในส่วนของวัสดุที่นำมาตัดเย็บ และการปักประดับประดา เพื่อเป็นการพูดถึงเรื่องการนองเลือดจากการปฏิวัติ โดยหนึ่งในนั้นคือเครื่องประดับสร้อยโช้กเกอร์เส้นนี้ที่มีหยดเลือดซึ่งสื่อถึงเครื่องประหารนามว่า "กิโยติน" โดยปัจจุบันสร้อยคอในโชว์ส่วนหนึ่งตกไปเป็นสมบัติส่วนตัวของ John Galliano จึงมีการนำมาใช้กับคอลเล็กชั่น Artisanal ฝั่งชายของแบรนด์ Maison Margiela ที่เจ้าตัวเป็นครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ในช่วงเวลานี้

บอกแรงปรารถนาด้วยการใช้แมลงวัน 'โมเช' (Mosche)

ค่านิยมการมีผิวขาวราวกับหิมะในหมู่สาวๆที่เราเห็นในปัจจุบันนี้มีมานานแสนนานแล้ว โดยเฉพาะกับแฟชั่นหน้าขาว (Lead Makeup) ที่เป็นการใช้เครื่องสำอางทำให้ใบหน้าดูขาวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั้นมีมาตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ จนได้รับความนิยมถึงขีดสุดในสมัยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ ในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 ต่อเนื่องมาจนถึงรัชสมัยของพระนางมารีในศตวรรษที่ 18 เพราะสาวสังคมชั้นสูงเชื่อว่าการมีผิวคล้ำดูกระดำกระด่างคือกลุ่มคนไม่มีเงิน ต้องตรากตรำทำงานตากแดดอาบเหงื่อจนผิวหมองคล้ำไม่สวยงาม

และด้วยค่านิยมนี้เองที่นำมาซึ่งอีกหนึ่งแฟชั่นแห่งยุคสมัย ‘โมเช’ (Mosche) คำภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า ‘แมลงวัน’ เป็นการนำผ้าไหมสีดำมาตัดเป็นแผ่นเล็กๆรูปต่างๆอย่างรูปวงกลม ดวงดาว พระจันทร์เสี้ยวเพื่อปกปิดสิวและจุดด่างดำบนใบหน้า นอกจากปิดบังสิ่งไม่พึงปรารถนา ช่วยขับให้ผิวหน้ายิ่งดูขาวขึ้นแล้ว ตำแหน่งของการติดโมเชยังสื่อถึงความนัย ซึ่งผู้ติดต้องการส่งสารไปยังผู้พบเห็นได้อีกด้วย เช่น ติดที่หน้าผากสื่อถึงการเป็นผู้ดีมีสกุล ติดที่หางตาคือการสื่อว่าเป็นสาวผู้รุ่มร้อน ติดทแยงเหนือริมฝีปากสื่อว่าเป็นสาวนักจูบผู้ดูดดื่ม เป็นต้น ดังนั้นต่อไปนี้ใครไปเที่ยวกลางคืนแล้วติด 'โมเช' ถูกจุดเม็ดใหญ่ๆ ได้ผู้กลับบ้านแน่นอน ฮ่า ๆ

เนื้อหาบางส่วนจากบทความในคอลัมน์ Inside Fashion นิตยสาร ELLE Thailand, April 2020 // รูปประกอบ John Galliano Fall/Winter 2003

สวัสดีวันปีใหม่ไทย

ขอบันทึกไว้ว่าปี 2020 เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้พบกับการงดจัดงานสงกรานต์เนื่องจาก Covid-19 

ดาราวัยรุ่นไทยในยุค 90s กับแฟชั่นเซ็ทโดยเสื้อผ้า Jean Paul Gaultier

ทั้งหมดนี้คือรูปเพียงบางส่วนจากนิตยสารแฟชั่นวัยรุ่นของไทยในยุค 90s กับเสื้อผ้าของแบรนด์ 'ฌอง-ปอล โกลติเยร์' ที่เคยได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทยเมื่อราวๆ 20 ปีที่แล้ว ยุคที่มีร้านของ Jean Paul Gaultier ชื่อว่า 'Galerie Gaultier' จำหน่ายสินค้าทุกไลน์ของแบรนด์นี้ที่ชั้น G ของศูนย์การค้า Gaysorn Plaza ส่วนใครเป็นใครนั้นยังจำกันได้ไหมเอ่ย

วิลลี่ แมคอินทอช ในนิตยสาร Expression ฉบับเดือนพฤษภาคม - มิถุนายนปี 1996

เรย์ แมคโดนัลด์ ในนิตยสาร แพรวสุดสัปดาห์ เดือนธันวาคมปี 1995

มอส ปฏิภาณ ในนิตยสาร Heart ฉบับเดือนธันวาคม ปี 1997

โดม ปกรณ์ ลัม ในนิตยสารเธอกับฉัน ฉบับเดือนเมษายน ปี 2001

แมทธิว ดีน ในนิตยสาร The Boy ฉบับที่ 145

ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ในนิตยสาร ผู้หญิง ปักษ์หลังพฤษจิกายนปี 2000

Stephen Teper Arnold และ เอ็ม ทนงศักดิ์ 

ในนิตยสารเธอกับฉัน ฉบับเดือนเมษายนปี 2002

สิ้นสุดยุค Givenchy by Clare Waight Keller

เป็นไปตามคาดดังที่เคยเกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ว่า ปีนี้ Givenchy อาจไม่ต่อสัญญากับ Clare Waight Keller แล้วผลก็ออกมาเช่นนั้น ... มารอลุ้นหัวเรือคนใหม่กันดีกว่า

SAVE MY RIGHTS: สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานสัมภาษณ์พิเศษกับแอลประเทศไทย ถึงเบื้องหลังในการทรงงานในฐานะองค์ดีไซเนอร์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK​ และองค์อุปถัมภ์ Royal Bangkok Symphony Orchestra สู่การก่อตั้ง มูลนิธิอารยศิลป์ สิริวัณณวรีนารีรัตน์ เพื่อสนับสนุนบุคลากรด้านงานสร้างสรรค์และการเปิดตัวโครงการล่าสุด SaveMyRights ศิลปินพิทักสิทธิ์ รณรงค์ด้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

Story: ฆนากร เพชรตระกูล

Hair: สมพร ธิรินทร์

Make Up: ภูวษา พรธรรมฉัตร

Setup: ณัตสุพล พรมสวัสดิ์

Assistant Setup: ชิตวัจน์ บุรมยากร, ปวริศา ภูนุช

Photographer: วัชรสิทธิ์ วิชญาณรัตน์

Assistant Photographer: โสภณ ไขยเสน, สมบูรณ์เกียรติ วงศ์หอม, อุดมศักดิ์ เอมอู่สิน

Videographer: ประภาวัต เฮงสุวรรณ์, สุวิจักษณ์ ประดาศักดิ์

Stylist: ดนีย์นาถ บุรกสิกร

Assistant Stylist: จิตธิดา เข็มกำเนิด, ชะตา แก้วอุดม

Web Show กับที่นั่งฟรอนต์โรว์ซึ่งไร้ผู้ชม

ในปี 2008 สองคู่หู Viktor & Rolf เคยจัดโชว์ในรูปแบบที่เจ้าตัวเรียกว่า 'Web Show' สำหรับคอลเล็กชั่นฤดูร้อนปี 2009 เป็นการทดลองจัดโชว์โดยที่ไม่มีผู้ชม แต่ใช้วิธีการถ่ายทอดสดผ่านเว็บไซต์ของแบรนด์ และ Style.Com (ชื่อเดิมของ VogueRunway.Com) แต่ในช่วงเวลานั้นการจัดโชว์รูปแบบนี้ถูกมองว่า 'หมดงบ' หรือไม่ก็ 'กำลังถังแตก' เนื่องจากเป็นช่วงที่มีวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ อีกทั้งเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นที่จัดโชว์กันอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ทำให้คอลเล็กชั่นนี้ของ Viktor & Rolf ขาดเสน่และไม่มีคนสนใจ จนเจ้าตัวต้องออกมายอมรับภายหลังว่า สิ่งที่ 'Web Show' ไม่สามารถสร้างได้นั่นก็คือ "อารมณ์และประสบการณ์ร่วม" เช่นเดียวกับการที่เราชมละครเวที หรือการไปชมคอนเสิร์ตของศิลปินโปรดด้วยตัวเอง

ดังนั้นต้องมาดูกันว่า ผลตอบรับการจัด 'ดิจิตัล แฟชั่น วีค' แบบที่จีนกำลังทำอยู่จะประาบความสำเร็จมากน้อยขนาดไหน และจะมาแทนที่การจัดโชว์รูปแบบเดิมๆได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆในช่วงสถานการณ์ Covid-19 การจัดโชว์รูปแบบนี้คือตัวเลือกเดียวที่ยังสามารถทำได้

ELLE Thailand : April 2020 ' Style Decode'

ทำไมสาวสังคมในศตวรรษที่ 18 ของยุโรป ยุคที่มีพระนาง Marie Antoinette เป็นสไตล์ไอคอน ถึงทำผมสูง (Pouffe) แต่งหน้าขาว (Lead Makeup) และใส่กระโปรงบานขยายออกด้านข้าง อ่านเรื่องราวการถอดรหัสการแต่งกายที่กลับมามีอิทธิพลต่อโลกแฟชั่นในช่วงเวลานี้ได้ใน ELLE Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2020

ELLE Thailand : April 2020 'Enfant Terrible'

นิตยสาร ELLE Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2020 พาหวนรำลึกถึงผลงานเก่าๆของนักออกแบบผู้เป็นที่รัก 'ฌอง-ปอล โกลติเยร์' (Jean Paul Gaultier) กับคอลเล็กชั่นน่าสนใจที่สะท้อนตัวตนและความยิ่งใหญ่ตลอด 5 ทศวรรษของกูตูริเยร์ผู้ได้รับฉายา 'Enfant Terrible' หรือ 'เด็กแสบแห่งโลกแฟชั่น' XOXO

The Platform - สยองขวัญไปกับโลกของชนชั้น

ใครมี Netflix เราขอแนะนำให้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ 'The Platform' ยิ่งถ้าเป็นคอหนังระทึกขวัญด้วยแล้วจะยิ่งหลงรัก ส่วนตัวคิดว่า The Platform คือการเสียดสีเรื่องของชนชั้นโดยเฉพาะกับระบบทุนนิยม ได้แบบถึงขั้นไม่แพ้ Parasite แต่มาในเวอร์ชั่นที่เสพได้ง่ายกว่า พร้อมกับวิธีการนำเสนอที่น่าสนใจมาก ทั้งลุ้น ระทึก ก่อนปิดท้ายด้วยคำถามปลายเปิด ให้ผู้ชมไปตีความกันเอาเอง แต่ที่แน่ๆคือเมื่อดูแล้วคุณอาจจะตั้งคำถามกับตัวได้ว่า "เราอยู่ชั้นไหน?" และเตือนสติตัวเองไว้ว่า "อย่าคิดว่าชั้นที่อยู่จะมั่นคงเสมอไป จงเผื่อใจเอาไว้ด้วย" 

ELLE - Numero Special เหล่าฮีโร่ที่ต่อสู้กับ Covid-19

ปกนิตยสาร ELLE ฝรั่งเศสน่ารักมาก ก ก ... เป็นการขอร่วมให้กำลังใจและขอบคุณเหล่าฮีโร่ทั้งแพทย์และพยาบาลที่ต่อสู้กับ Covid-19

L'Oréal S.A. ตัดสินใจซื้อ Mugler และ Azzaro

ข่าวใหญ่ในโลกแฟชั่นวันนี้ คือการที่บริษัทเครื่องสำอางรายใหญ่ที่สุดของโลก L'Oréal S.A. ตัดสินใจซื้อ Mugler และ Azzaro มาจาก Clarins Group ซึ่งในกรณีของ 'มูแกล์' นั้นถูกครอบครองโดย Clarins มายาวนานตั้งแต่ปลายยุค 90s นัยสำคัญก็คือดูเหมือนกับว่า L'Oréal S.A. กำลังสนใจสายแฟชั่นโดยเริ่มหันมาสนับสนุนแฟชั่นแบรนด์ต่างๆอย่าง Olivier Theyskens ที่กลับมาจัดโชว์ได้ทุกวันนี้ก็เพราะแรงสนับสนุนจาก L'Oréal S.A. เช่นเดียวกัน

ELLE Men Thailand Spring/Summer 2020

หากสถานการณ์เรื่อง Cover-19 ทำหนุ่มๆเครียด? เชิญอ่านเรื่องราวแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ รับฤดูร้อน 2020 ได้ในนิตยสาร ELLE Men ประเทศไทยฉบับล่าสุดที่วางแผงแล้ววันนี้ บรรดา 'นุช' จะต้องกรี๊ดกร๊าดด้วย 2 ปกสุดเท่! เมื่อเฮีย 'เป๊ก ผลิตโชค' มาพร้อมเสื้อผ้าจากแบรนด์ Louis Vuitton ในเล่มยังมีคอลเล็กชั่นเด็ดจากแบรนด์ดัง รวมทั้งเทรนด์ฮอตฮิตที่จะมาช่วยสร้างสีสันให้ชีวิต "อย่าให้โควิดมาหยุดเรา!" เพราะชีวิตต้องก้าวเดินต่อไป