February 25, 2017

Martin Margiela 1995 & 1996 to MM6 F/W 2017

อยากได้มากกว่าฮู้ดดี้ของ Vetements ก็คือ Hoodie ของ MM6 คอลเล็กชั่น Fall/Winter 2017 ซึ่งนำรูปของ Martin Margiela ในปี 1996 และภาพจากรันเวย์ Fall/Winter 1995 มาใช้บนชิ้นงาน ซึ่งผลงานคอลเล็กชั่นนี้ถือเป็นอีกหนึ่งคอลเล็กชั่นในตำนานซึ่งเชื่อว่าแฟนๆของ Martin Margiela ทั้งเก่าและใหม่ก็คงชอบเช่นกันครับ ^__^


MM6 Fall/Winter 2017
& Martin Margiela F/W 1995, 1996

7 คอลเล็กชั่นที่ดีที่สุดของ Donatella Versace

ในขณะที่กำลังเขียนอยู่นี้ ยังไม่รู้ว่าข่าวลือที่ว่า Versace Fall 2017 ที่เพิ่งโชว์จบไปนั้น จะเป็นคอลเล็กชั่นสุดท้ายของ Donatella Versace ในฐานะนักออกแบบหรือไม่ แต่ 20 ที่ปีผ่านไปนับตั้งแต่ที่ Donatella Versace เข้ามาสานต่องานจาก Gianni Versace พี่ชายผู้จากไป มีคอลเล็กชั่นใดน่าจดจำบ้าง นี่คือ 7 คอลเล็กชั่นของ Donatella Versace สำหรับ Versace ที่ส่วนตัวขอยกให้ดีที่สุด นับตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่ออกแบบอย่างเต็มตัวครับ


Versace Spring/Summer 1998



คอลเล็กชั่นแรกของ Donatella Versace ในฐานะนักออกแบบของห้องเสื้อ Versace ซึ่งโดยปรกติแล้ว โชว์ปิดประจำ Milan Fashion Week นั้นเป็น Giorgio Armani แต่ในฤดูกาลนี้ Mr.Armani ให้เกียรติห้องเสื้อ Versace เป็นโชว์ปิดฤดูกาลด้วยผลงานที่เป็นการ Tribute ให้แก่ Gianni Versace ผู้จากไป และเพราะเป็นผู้หญิง Donatella Versace จึงรู้ลิมิทของการเผยสัดส่วนให้ดูเซ็กซี่ เร้าอารมณ์หนุ่มๆได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการใช้คอร์เซ็ทเน้นสัดส่วนรูปร่าง การพลางและลวงตาด้วยเส้นสาย รวมทั้งการใช้รายละเอียดบางจุดด้วยเนื้อผ้าซีทรู ทำให้สาวหรูของ Versace ฤดูกาลนี้เซ็กซี่ที่สุดประจำฤดูกาล Spring 1998 ไปอีกหนึ่งคอลเล็กชั่น


Versace Spring/Summer 2000



อีกหนึ่งคอลเล็กชั่นในตำนานของ Versace ที่กลายเป็น Talk of The Town เมื่อนักร้องสาวสุดเซ็กซี่ 'Jennifer Lopez' เลือกสวมชุดราตรีคว้านลึก และโปร่งบางโชว์สดส่วนจากคอลเล็กชั่นนี้ไปร่วมงาน Grammy Awards แต่แม้ไม่มี J.Lo สวมใส่ให้เป็นที่จดจำ คอลเล็กชั่นนี้ก็ควรถูกยกย่องด้วยการนำเสนอเทคนิคการตัดเย็บระดับหรูเทียบเท่ากับกูตูร์สำหรับคอลเล็กชั่น Ready-to-Wear ไม่ใช่เฉพาะสารพัดชุดราตรีสุดเซ็กซี่เท่านั้นที่น่าชื่นชม แต่งานพิมพ์ และงานปัก ทั้งคริสตัลและเลื่อมบนชุดเพื่อให้เกิดเป็นลวดลาย Medusa โลโก้ประจำห้องเสื้อก็น่าสนใจมากๆ นิยามของสาวหรู ดูแกลม และดูเจ้ทเซ็ทสุดๆ คือภาพของผลงานในคอลเล็กชั่นนี้


Versace Fall/Winter 2003



ในฤดูกาล Fall/Winter 2003 ของ Versace โดดเด่นทั้งคอลเล็กชั่นบนรันเวย์ และ AD Campaign ซึ่งได้นักร้องสาวเสียงดี เป็นหนึ่งใน Diva ยุคใหม่อย่าง Christina Aguilera มาเป็นแบบให้กับ AD Campaign ประจำคอลเล็กชั่นที่มีผลงานอิงมาจากรูปแบบของ Corset รัดทรวดทรง เน้นสัดส่วนที่สวยงามของผู้หญิง แต่ดูไม่หนักและแน่นจนเกินไปเมื่อลดทอนใช้เพียงในส่วนของโครงสร้าง เส้นสาย การพันผูก คู่กับเนื้อผ้าบางเบา, นี่เป็นการกลับมาโชว์ผลงานระดับท็อปฟอร์มของ Donatella Versace อีกครั้ง หลังจากที่กระแสของห้องเสื้อเริ่มจางหายไปในช่วง 2-3 ซีซั่นก่อนหน้า การกลับมาเรียกคำชมครั้งนี้ ถือว่าทำได้ดีมากๆทีเดียว


Versace Spring/Summer 2007



ในเมื่อเทรนด์หลักของโลกแฟชั่นของฤดูกาล Spring/Summer 2007 คือ Futuristic Trend ดังนั้น Versace จึงนำเสนอผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่อิงเทรนด์ให้เข้ากับกระแส แต่ก็ยังดูเป็น Versace แบบที่ไม่หลุดกรอบมากนัก Futuristic สำหรับ Versace นอกจากเน้นความเรียบง่ายของเส้นสาย ไม่มีสไตล์ลิ่งวุ่นวาย เหมาะกับสาวยุคใหม่ด้วยการใช้วัสดุสังเคราะห์และธรรมชาติคู่กันแล้ว การใช้วัสดุแวววาวอย่างเลื่อม และผืนหนังผ่านกระบวนการต่างๆเพื่อสร้างผิวสัมผัสใหม่ ตกแต่งลงบนชิ้นงานก็สร้างความล้ำในแบบหุ่นยนต์สาวจากโลก Sci-Fi ได้อย่างดี เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งคอลเล็กชั่นที่แฟนๆของ Versace ก็คงชื่นชอบโดยทั่วกัน


Versace Pre-Fall 2011



คอลเล็กชั่นฤดูกาลรองเช่น Pre-Fall 2011 ของ Versace เป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นขั้นกลางระหว่างฤดูกาลหลักที่น่าสนใจ ด้วยการกลับไปใช้ลวดลายซิกเนเจอร์ต่างๆในยุค Gianni Versace อีกครั้ง หลังจากที่ Donatella Versace พยายามลดรายละเอียดจากการใช้สัญลักษณ์ Medusa, ลายกรีกคีย์ และลายเสือในตำนาน เพราะเมื่อเวลาผ่านไป กระแสแฟชั่นในช่วงปี 2011 ซึ่งกลับมานิยมใส่เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยลวดลายทั้งแบบแยกชิ้น และโทมัลลุคดูสนุกๆ ก็ร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะลวดลายสไตล์ Baroque ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของ Versace  เมื่อรวมกับลุคเท่ๆแบบที่ได้ทำร่วมกับ H&M จึงเป็นผลงานที่ดูร่วมสมัยและน่าสวมใส่มากๆ


Versace Fall/Winter 2012



คอลเล็กชั่นฤดูหนาวปี 2012 ของ Versace คือการหวนรำลึกถึง Gianni Versace อีกครั้ง หลังจากที่เสียชีวิตไปครบ 15 ปี Donatella Versace จึงหยิบเอางาน Haute Couture สุดท้ายของ Gianni Versace คอลเล็กชั่น Atelier Versace Fall 1997 กลับมาปัดฝุ่นใหม่ ทั้งสัญลักษณ์ไม้กางเขนซึ่งเห็นได้ทั้งคอลเล็กชั่น ทั้งการใช้วัสดุผืนผ้าและโลหะผสมผสานกันคล้ายกับชุดเกราะของนักรบ ทั้งการใช้ Fur และหนัง Exotic สำหรับสร้างชิ้นงานสวยๆ ทั้งหมดล้วนเป็นการ Tribute ให้ Gianni ผู้จากไปอย่างยิ่งใหญ่ สวยงามและน่าประทับใจ ถือเป็นอีกคอลเล็กชั่น Ready-to-Wear ที่มีการใช้เทคนิคการตัดเย็บเทียบเท่าระดับกูตูร์เลยทีเดียว


Versace Fall/Winter 2013



เพื่อให้ดูเข้ากับกระแสนิทรรศการ Punk ที่ MET คอลเล็กชั่นนี้ของ Versace จึงนำเสนอคอลเล็กชั่นสาว Punk ที่ดูแกลมที่สุดแห่งยุค ซึ่งเป็นคอลเล็กชั่นหนึ่งซึ่งส่วนตัวชอบมาก และขอยกให้เป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นที่ดีที่สุดตลอดกาลของ Versace ยุค Donatella Versace ทั้งการใช้ลาเท็กให้ดูหรูและสวยงามไม่กลายเป็นชุดจากร้าน Sex Shop, การใช้ลาย Tartan ได้อย่างลงตัว รวมทั้งการกระหน่ำ Fur สีสวย ทั้งลายเสือและม้าลาย ซึ่งอาจดูเป็นการท้าทายกลุ่มอนุรักษ์ PETA แต่วัสดุอย่าง หนัง Exotic และ Fur เป็นของคู่กันกับห้องเสื้อ Versace มาตั้งแต่ไหนแต่ไร และคอลเล็กชั่นนี้ก็เป็นการยืนยันแล้วว่ายังคงใช้ได้สวยหรูดูดีเช่นเดิม

Versace Fall/Winter 2017

คอลเล็กชั่นนี้ของ Versace เหมือนเป็นการบอกใบ้ให้คาดเดาได้ว่า อดีตครีเอทีฟไดเร็คเตอร์คนเก่งของ Givenchy อย่าง Riccardo Tisci คงจะย้ายเข้ามาอยู่ที่ชายคาหลังใหม่ Versace แน่ๆ เพราะไม่ใช่มีเพียงเวิร์ดดิ้ง 'LOVE' ซึ่งเป็นแฮชแท็กประจำตัว Riccardo Tisci ที่ปรากฏอยู่ทั่วคอลเล็กชั่นเท่านั้น แต่ยังมีการปรับทิศทางของคอลเล็กชั่นให้เข้าใกล้ Street Fashion มากยิ่งขึ้น ซึ่งดูไปแล้วภาพรวมของคอลเล็กชั่นนี้ก็เหมือนกับเป็น Versus คือดูสนุก แต่ก็หรู และดูเซ็กซี่กว่ามาก, งานเทเลอร์ในแบบ 80's Power Dressing นั้นคมมาก สีที่ใช้ทั้งการไล่สี และสีสดนั้นร้อนแรงมาก เดรสก็เซ็กซี่มากๆตามแบบฉบับของ Versace ครับ ^__^


February 22, 2017

GUCCI Fall/Winter 2017 vs Alain Mikli in Overboard, 1987



GUCCI Fall 2017, Sunglasses
and Alain Mikli in Overboard, 1987

8 Mens Collections ที่ผสมผสานงานแฟชั่น และสีสันของโลกดนตรีได้ดีที่สุดในศตวรรษที่ 21

โลกแฟชั่นกับโลกดนตรีนั้นคู่กันเสมอ เช่นเดียวกับการที่ศิลปะแขนงต่างๆนั้นเชื่อมโยงเข้าหากันไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งทั้ง 8 คอลเล็กชั่นนี้คือ Mens Collection ที่สามารถสะท้อนสีสันแห่งโลกดนตรีผ่าน Menswear ที่นำเสนอออกมาได้ดีที่สุดในศตวรรษที่ 21 *ตามความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งอาจจะไม่ใช่ Mens Collection ที่ดีที่สุดของแต่ละห้องเสื้อ แต่ถ้าพูดถึง Music meets Fashion แล้ว ทั้ง 8 คอลเล็กชั่นนี้คือที่สุดในใจตลอดกาลครับ 


Dior Homme 
Spring/Summer 2002


คอลเล็กชั่นสุดเซ็กซี่ของ Dior Homme by Hedi Slimane หลังจากได้นำเสนอผลงานแรกสำหรับ Dior Homme ไปในฤดูกาลก่อนหน้า นอกจากในคอลเล็กชั่นนี้ดูอบอวลไปด้วย กลิ่นอายของดนตรี Rock ซึ่งสื่อผ่านทางวัสดุ และสีสันของโลกตะวันออก ซึ่งสื่อผ่านทางโครงเสื้ออย่างชุดซามูไรแล้ว ยังมีลุคเด่น เป็นเสื้อเชิ้ตปักเลื่อมและลูกปัดสีแดง ซึ่งทำให้นึกถึง The Heartbreakers ในปี 1975 ด้วยการใส่เสื้อผ้ารูปแบบเดียวกับในคอลเล็กชั่น


Louis Vuitton Men
Fall/Winter 2007


อีกหนึ่งในคอลเล็กชั่น Louis Vuitton Men ซึ่งเป็นคอลเล็กชั่นที่ส่วนตัวชื่นชอบมากที่สุด จะด้วยทั้งรูปแบบของผลงาน, วัสดุ, คู่สี ซึ่งดูร่วมสมัยและน่าสวมใส่มากๆ นอกจากนำเสนองานเทเลอร์คัทคม และชิ้นขายใส่ง่ายๆแถมดูน่ารัก เป็นเสื้อยืดลายกระเป๋าพวงกุญแจของ Louis Vuitton แล้ว ในคอลเล็กชั่นนี้ Marc Jacobs ยังนำลุคเด่นของ Annie Lennox ซึ่งถือเป็น Androgynous Style ระดับตำนานมาใช้คู่กับซาวด์แทร็กซึ่งเข้ากันในโชว์


Hugo by Hugo Boss 
Fall/Winter 2009 


คอลเล็กชั่นของ Hugo Boss โดยหนึ่งในนักออกแบบคนโปรด Bruno Pieters ผลงานนี้ถือเป็นคอลเล็กชั่นระดับตำนานที่นำเสนอชิ้นงานดรามาติก มาจับคู่กับเทเลอร์คัทคมผสมผสานกันได้อย่างลงตัว โดยมี Muse ระดับตำนาน ซึ่งดูโดดเด่นทั้งเสียงร้องอันทรงพลัง และคาแร็คเตอร์เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร Klaus Nomi มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ถือเป็นอีกคอลเล็กชั่นสำหรับผู้ชายที่น่าสนใจมากที่สุดอีกคอลเล็กชั่นหนึ่งในศตวรรษที่ 21 นี้


Givenchy Men
Spring/Summer 2010


อย่างที่รู้ๆกันว่า Riccardo Tisci นั้นชื่นชมทั้ง Gianni Versace และ Prince มากขนาดไหน ไม่ใช่มีเพียงแต่ในคอลเล็กชั่น Givenchy Fall/Winter 2011 ที่ Tribute ให้กับ Gianni Versace เท่านั้น ในฤดูกาลก่อนหน้า Mens S/S 2010 ก็เป็นอีกคอลเล็กชั่นที่ Riccardo Tisci ได้นำลุคเด่นของศิลปินผู้ล่วงลับ Prince ในชุดของ Versace เมื่อปี 1995 กลับมาปัดฝุ่นใหม่โดยใส่ซิกเนเจอร์ 'ดวงดาว' เพิ่มเข้าไปให้ดูแล้วเป็นผลงานสำหรับห้องเสื้อ Givenchy 


Alexander McQueen Men
Spring/Summer 2012


ถ้า Sarah Burton จะนำเสนอคอลเล็กชั่นสำหรับผู้ชายที่มาพร้อมด้วยสไตล์ 'English Rock' ทั้งที แน่นอนว่ากลิ่นอายของศิลปิน และเป็นแฟชั่นไอคอนระดับโลกอย่าง Mick Jagger ต้องเจอได้ในคอลเล็กชั่นสำหรับ Alexander McQueen Men S/S 2012 นี้ ลุคเด่นของ Mick Jagger กับแจ็กเก็ตและกางเกงลายตารางในปี 1971 ถูกดึงมาใช้สำหรับหนุ่มๆของ McQueen ได้อย่างน่าสนใจ ร่วมสมัย แลัวยังดูน่าสวมใส่ในศตวรรษที่ 21


John Varvatos
Fall/Winter 2014


John Varvatos เป็นนักออกแบบอีกคนที่มักนำสีสันของดนตรี โดยเฉพาะกับดนตรี Rock มาใช้เป็นแรงบันดาลใจให้กับคอลเล็กชั่นเสมอ คอลเล็กชั่น Fall/Winter 2014 เป็นตัวอย่างที่ดีซึ่งทำให้เห็นว่าถ้า Muse ของคอลเล็กชั่นนั้นแฟชั่นดูฮาร์ดคอร์เกินไปที่จะสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ควรที่ปรับลดทอน โดยดึงเอารายละเอียดของรูปแบบ สี และวัสดุมาปรับใช้กับคอลเล็กชั่น ทำให้กลายเป็น Kiss ในเวอร์ชั่นที่ดูแล้วนุ่มนวลชวนฝันมากยิ่งขึ้น


Saint Laurent Men
Spring/Summer 2016


เมื่อปลายศตวรรษที่ 20 ในขณะที่ Hedi Slimane ร่วมงานกับ YSL Rive Gauche เคยได้นำเสนอคอลเล็กชั่นสุด Rock เอาไว้ครั้งหนึ่ง ซึ่งพอมาถึงในทศวรรษนี้ที่ Hedi Slimane กลับมาบ้านหลังเก่าอีกครั้ง ก็ยังคงนำเอาวัฒนธรรมในการแต่งกายของเหล่าไอคอนแห่งโลกดนตรีมาใช้กับ Saint Laurent Paris โดยในคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2016 คือหนุ่มๆสุดกรันจ์ ลุกขึ้นมาแต่งตาม Kurt Cobain ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไอดอลในโลกดนตรี


Paul Smith Men 
Spring/Summer 2016


แน่นอนว่าถ้าพูดถึง Muse จากโลกดนตรี ที่มีสไตล์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ชื่อของ David Bowie ต้องโผล่มาเป็นอันดับแรกๆเสมอ, คอลเล็กชั่น Men Spring/Summer 2016 ของ Paul Smith คือการนำลุคสุดเท่ของ David Bowie ในช่วง 70s มาใช้ในคอลเล็กชั่นทั้งส่วนของเสื้อผ้า หน้า-ผม ทั้งเบลเซอร์คัทคม และการใช้คู่สีจัดจ้านแบบคัลเลอร์บล็อก เพื่อสะท้อนความ Rock, ความ Pop ความสนุกให้ออกมาได้ดีที่สุด 

February 19, 2017

Womens Collection ลุค Sporty ที่ดูยอดเยี่ยมที่สุดในศตวรรษที่ 21

สำหรับสาวๆผู้รักในกีฬา ขอเชิญมาชมคอลเล็กชั่น Ready-To-Wear ลุค Sporty ซึ่งส่วนตัวยกให้ดีที่สุดในโลกศตวรรษที่ 21 นี้ โดยเริ่มตั้งแต่ในช่วงปีมิลเลนเนี่ยมจนถึงปี 2017, แม้ 17 ปีที่ผ่านมามี Womens Collection ที่นำเรื่องของกีฬามาผสานกับงานแฟชั่นมากมาย แต่ยกให้ 7 คอลเล็กชั่นนี้คือคอลเล็กชั่นที่สาวๆสปอร์ตเกิร์ลไม่ควรพลาด แม้ไม่ได้อุดหนุน แต่อย่างน้อยๆก็สำหรับดูเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งตัวหรือสไตล์ลิ่งให้ได้ลุคอย่างสาวเท่ ดูรักสุขภาพในยุคที่กระแสของการดูแลตัวเอง การออกกำลังกายกลายเป็นเทรนด์โลกครับ ^__^


Chanel
Spring/Summer 2001



Karl Lagerfeld เคยให้สัมภาษณ์ก่อนที่จะเข้าสู่ยุคมิลเลนเนี่ยมว่า "มนุษย์คงไม่ไปดาวอังคารในเร็วๆนี้ แต่ผู้คนในศตวรรษที่ 21 จะหันมาออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพกันมากขึ้น" ความล้ำสมัยสำหรับ Chanel รับศตวรรษใหม่จึงเป็นการนำเสนอลุค Sporty ซึ่งดูสวมใส่ง่าย มาพร้อมเนื้อผ้าสวมใส่สบาย เหมาะกับวิถีชีวิตคนเมือง, แม้ Chanel เคยนำเสนอรูปแบบของแฟชั่นชั้นสูง ผสานกับกีฬามาตลอดช่วงปลายศตวรรษที่ผ่านมา แต่คอลเล็กชั่น Chanel ฤดูร้อน 2001 คืออีกหนึ่งในคอลเล็กชั่น Sport Chic ที่ส่วนตัวขอยกให้ดีที่สุดในศตวรรษที่ 21 นี้ โดยเฉพาะกับในส่วนของ Accessories เช่นสาย Lanyard, กระเป๋า Chanel Sport, รวมทั้งชิ้นเด็ดประจำรันเวย์ เป็นรองเท้าสุดเท่ที่เป็นการร่วมงานกันระหว่าง Chanel และ Reebok จนกลายเป็น Chanel x Reebok InstaPump Fury คู่สีใหม่ ซึ่ง Reebok ทำให้เข้ากับคอลเล็กชั่นนี้โดยเฉพาะ 

*** ชิ้นน่าสนใจ ขกยกให้ Chanel x Reebok InstaPump Fury ***


McQ
Spring/Summer 2008



McQ by Alexander McQueen คอลเล็กชั่นฤดูร้อน 2008 เป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่น Sporty ที่ดูสนุกที่สุดคอลเล็กชั่นหนึ่งในศตวรรษนี้ เป็นการลอนช์คอลเล็กชั่นออกมา เพื่อให้รับกับมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติ 'Olympics Beijing 2008' ด้วยตีมของเหล่าสาวๆ Cheerleaders ที่มาเชียร์หนุ่มๆนักกีฬาในช่วง 70's ดังนั้นทั้งคอลเล็กชั่นจึงเต็มไปด้วยสีสัน ทั้งลวดลายของดวงดาวอย่างที่คุ้นตาจากชุดของสาวๆนักเชียร์ เดรสปักเลื่อมไล่สีแบบที่คอดิสโก้เห็นแล้วจะต้องถูกใจ รวมทั้งในส่วนรายละเอียดที่หยิบยืมสัญลักษณ์ของห่วงโอลิมปิกมาใช้ทั้งในส่วนของชุดเดรสและแจ้กเก็ต หลังจากที่ Alexander McQueen เคยนำเสนอ Sporty คอลเล็กชั่นสำหรับ Givenchy ฤดูร้อน 2000 ต้อนรับ Olympics Sydney มาแล้ว นี่เป็นอีกครั้งที่ Alexander McQueen นำเสนอคอลเล็กชั่น Sporty ออกมาได้น่าสนใจและดูน่าสวมใส่ที่สุดอีกครั้งหนึ่ง

*** ชิ้นน่าสนใจ ขอยกให้ เสื้อลายดาวที่ Kylie Minogue ใช้ใน X Tour ***


Hermes
Spring/Summer 2010



หากคุณเป็นสาวเงินหนาที่กำลังมองหาเสื้อผ้าดู Sporty แต่ก็ยังมีความหรูซึ่งดูได้จากรูปทรง เนื้อผ้า และการตัดเย็บซึ่งเนี้ยบสุดๆแล้ว ผลงานของ Jean Paul Gaultier สำหรับ Hermes คอลเล็กชั่นฤดูร้อนปี 2010 คือสิ่งที่คู่ควร หลังจากที่โลกกำลังเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 ของศตวรรษที่ 21 ซึ่งกระแสของ Street Fashion กำลังเฟื่องฟู และเทรนด์ Sporty ก็ดูมีอิทธิพลต่อการแต่งกายของหนุ่มๆสาวๆมากขึ้น JP Gaultier จึงไม่ขอรอช้าที่จะพาสาวๆ Hermes เข้าร่วมกระแสนี้ เกิดเป็นเป็นคอลเล็กชั่นของ Hermes ที่ดูสดใหม่ ดูร่วมสมัย และดูสวมใส่ได้ทั้งสาววัยแรกรุ่น จนถึงคุณนายชาวปารีเซียง สลัดภาพความหรูแต่ดูสูงวัยของ Hermes ออกไปจนหมดสิ้น ซึ่งหากใครที่เป็นแฟนกระเป๋า Burkin ในฤดูกาลนี้ Hermes ก็มีกระเป๋า Shadow Birkin และกระเป๋า Birkin Himalayan ใบฮอตฮิต คู่สีเข้ากันกับในส่วนคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าให้ได้จับจอง

*** ชิ้นน่าสนใจ ขอยกให้กระเป๋า Hermes Shadow Birkin ใบใหม่ ***


Givenchy
Resort 2012



Riccardo Tisci เป็นนักออกแบบซึ่งนำเสนอมุมมองต่อโลก Street Fashion และ Sportswear ออกมาน่าชื่นชม อาจด้วยเพราะประสบการณ์ที่เคยร่วมงานกับแบรนด์กีฬายักษ์ใหญ่อย่าง Puma ในก่อนหน้านี้ ทำให้สามารถนำรูปแบบของ Sportswear ต่างๆมาปรับใช้กับห้องเสื้อใหญ่ประจำ Paris เช่น Givenchy ได้อย่างลงตัว คอลเล็กชั่น Resort 2012 ของ Givenchy อาจมีจุดเด่นเป็นเรื่องของลายพิมพ์ในรูปแบบ Kaleidoscope อันโด่งดัง แต่ที่ต้องขอชื่นชมที่สุดคือการผสมผสานรูปแบบของชุด Sportswear เข้ากับกระแส Military แฟชั่นซึ่งกำลังฮอตฮิตอยู่ในขณะนั้นได้เข้ากันอย่างกลมกล่อม อาจเป็น Sporty ที่ไม่ได้เหมาะกับใส่เล่นกีฬาจริงๆ แต่ถ้าคุณผู้หญิงแฟชั่นจ๋าอยากใส่เดรส และเสื้อครอปสวยๆเล่นกีฬาด้วยก็ไม่ว่ากัน ถือเป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นสร้างชื่อให้ Riccardo Tisci ก่อนที่จะกระหน่ำงานสตรีทจนได้ฉายา King of Street Couture

*** ชิ้นน่าสนใจ ขอยกให้สาย Lanyard และ Visor & Cap โดย Treacy ***


Lacoste
Fall/Winter 2013



ตั้งแต่ที่กูตูริเยร์คนเก่ง Felipe Oliveira Baptista มารับช่วงต่อจาก Christophe Lemaire ที่โบกมือลา Lacoste ไป FOB นั้นแสดงให้เห็นแล้วว่าเค้าสามารถนำฝีมือการตัดเย็บระดับอาภรณ์ชั้นสูง หรือ Haute Couture มาผสมผสานกับผลงานออกแบบแฟชั่นที่อิงประวัติศาสตร์ของห้องเสื้อในเรื่องกีฬาได้อย่างลงตัว และพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ของ Lacoste ด้วยรูปแบบซึ่งดูหรู ล้ำ นำสมัย ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ เช่นคอลเล็กชั่น Fall/Winter 2013 กับช่วงเวลาฉลอง 80 ปีของ Lacoste ด้วยการหยิบเอาชิ้นเบสิกในตำนาน เสื้อโปโลพร้อมตราสัญลักษณ์จระเข้มาปรับโฉมให้ดูน่าสนใจด้วย Silhouette ที่แตกต่างออกไปจากที่ผ่านๆมา พร้อมทั้งการนำเสนอเนื้อผ้าสุดพิเศษสำหรับรับลมหนาวทั้งในส่วนของ Knitwear ซึ่งเป็นต้นทุนทางวัตถุดิบและการผลิตอันเลื่องชื่อของ Lacoste, และการจับคู่วัสดุธรรมชาติกับวัสดุสังเคราะห์เพื่อสื่อถึงความล้ำสมัย

*** ชิ้นน่าสนใจ ขอยกให้เสื้อโปโลโฉมใหม่ Silhouette แปลกตา ***


Alexander Wang
Spring/Summer 2015



ต้องยอมรับว่า เมื่อพูดถึงแฟชั่น Sporty ดีไซเนอร์ฝั่งอเมริกามักนำเสนอ Sportswear ออกมาดูดีไม่เป็นสองรองใคร หนึ่งในนั้นคือ Alexander Wang ซึ่งนำเสนอผลงานชั้นยอด ตามมาตรฐานอเมริกันสปอร์ตแวร์ออกมาน่าชื่นชมตลอดหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา โดยคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2015 คือที่สุดของงานสปอร์ตแวร์โดย Alexander Wang คอลเล็กชั่นที่ฟอร์มอาจดูธรรมดาๆ แต่น่าสนใจด้วยรายละเอียดบนชิ้นงาน ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากรองเท้า Sneakers คู่สวยของทั้ง Nike และ Adidas, ลายของ Air Jordan III Black Cement กลายมาเป็นลวดลายบนเนื้อผ้า, คู่สีสุดคลาสสิกของ Adidas Stan Smith กลายมาเป็นหนึ่งในสีเด่นในคอลเล็กชั่น และนอกจากในส่วนของเสื้อผ้าแล้ว รองเท้าคู่สวยนั้นแปลงร่างเป็นกระเป๋า Sneaker Bags ใบใหม่ ซึ่งใช้รายละเอียดของพื้น Air และเส้นสายของ Nike มาใช้ได้ลงตัวและเท่มากทีเดียว

*** ชิ้นน่าสนใจ ขอยกให้กระเป๋า Sneaker Bag ขวัญใจสายสตรีท ***


Y-3
Spring/Summer 2017



ถ้าหากกำลังมองหาคอลเล็กชั่น Sporty ที่ดูเป็นงาน Avant-Garde เหมือนอยู่ในโลก Sci-Fi นิยายวิทยาศาสตร์ คอลเล็กชั่นของ Y-3 คือคอลเล็กชั่นที่ตอบสนองความต้องการได้ตลอดมา โดยเฉพาะกับคอลเล็กชั่นฤดูร้อน 2017 ล่าสุดที่ Yohji Yamamoto นำความก้าวล้ำในการผลิตของ Adidas มาใช้ในคอลเล็กชั่นได้อย่างน่าชื่นชม ถ้าหากคอลเล็กชั่นนี้ดูเปรียบเหมือนการทดลองของนักประดิษฐ์ Yohji Yamamoto คงเป็นนักคิดที่ทำงานหนักจนได้มาซึ่งแพทเทิร์นมหัศจรรย์สำหรับคอลเล็กชั่นที่ยืนพื้นที่ชิ้นขาย ทั้งกางเกงทรงหลวม Silhouette ใหม่ และการใช้เทคนิคการพับ Origami บนชิ้นงานนั้นคือความโดดเด่นของคอลเล็กชั่นนี้ รวมทั้งชุดเซ็ทฟินาเล่ที่ติดพัดลมไว้ เพื่อเป่าให้ชุดพองออกปรับเปลี่ยน Silhouette ได้ตามต้องการ อีกทั้ง Accessories เช่น Visor, Backpack และร้องเท้า Sandals คู่ใหม่นั้นก็เราใจเหล่าแฟนคลับสุดๆ

*** ชิ้นน่าสนใจ ขอยกให้ Sneakers และ Sandals ทุกคู่ในคอลเล็กชั่น ***

February 18, 2017

Simone Nobili for NikeLab RT

การกลับมาของหนึ่งในนายแบบคนโปรด Simone Nobili ที่ถือว่าเป็น G-Boy อยู่คู่กับ Givenchy by Riccardo Tisci มาตั้งแต่ต้นทศวรรษ โดยคราวนี้ Nobili กลับมาพร้อมกับลุคใหม่ทั้งทรงผมและสีผม เพื่อให้รับกับคอลเล็กชั่น Nike RT ล่าสุด ซึ่งดูแล้วก็นึกถึง Givenchy เมื่อมี Nobili ยืนคู่กับน้องหมาน่ารักแทนหมาดุอย่างของห้องเสื้อในตำนานครับ ^__^


February 17, 2017

5 คอลเล็กชั่น Haute Couture ระดับตำนาน 20 ปีก่อน

ในปี 1997 ถือเป็นปีทองของแฟชั่นชั้นสูง หรือ 'Haute Couture' ในภาษาฝรั่งเศส เพราะหลายๆห้องเสื้อใหญ่ระดับตำนานต่างนำเสนอผลงานสุดหรูสมกับการเป็นผลงานระดับกูตูร์ ซึ่งดูแตกต่างจากงาน Ready-To-Wear อย่างเห็นชัด ทั้ง 5 คอลเล็กชั่นนี้อาจไม่ได้เป็น 5 คอลเล็กชั่น Haute Couture ที่ดีที่สุดของนักออกแบบแต่ละคนที่กล่าวถึง แต่ 5 คอลเล็กชั่นนี้เป็น 5 คอลเล็กชั่นน่าจดจำที่สุด ทั้งมีเรื่องราว จุดเริ่มต้น และจุดผันเปลี่ยนครับ


Atelier Versace
Fall 1997



Atelier Versace คอลเล็กชั่น Fall 1997 คือผลงานคอลเล็กชั่นสุดท้ายของหนึ่งในสุดยอดดีไซเนอร์ประจำศตวรรษ Gianni Versace ซึ่งหลังจากแสดงผลงานชั้นสูงในช่วง Haute Couture Week ได้ไม่นาน Gianni Versace ก็ถูกลอบสังหารจนเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วโลก, เมื่อลองมองย้อนกลับไป Haute Couture ของ Gianni Versace คอลเล็กชั่นนี้เหมือนเป็นงานสั่งลาด้วยเรื่องราวของศาสนาซึ่งถูกนำเสนอผ่านผลงานสุดหรูแต่ดูดิบ ทั้งสัญลักษณ์ไม้กางเขน ซึ่งกลายมาเป็นดีเทลสุดวิจิตรบนสารพัดชิ้นงาน, ยูนิฟอร์มของนักบวชถูกปรับทอนกลายเป็นเดรสตัวสวย แถมยังช่วยเสริมให้สาวๆดูแกร่งและทรงพลังด้วยโครงสร้างอย่าง Power Suit ไหล่ตั้งคัทคมสมกับเป็นหนึ่งในห้องเสื้อชั้นนำของ Italy ที่นำเสนอการตัดเย็บงาน Tailoring สำหรับผู้หญิงได้ไม่เป็นสองรองใคร แม้ผ่านไปแล้วเกือบจะ 20 ปี แต่ยังเป็นคอลเล็กชั่นที่ดูดี ร่วมสมัยทีเดียว


Dior Haute Couture 
Spring 1997



Dior Haute Couture Spring 1997 เป็นคอลเล็กชั่นระดับตำนานที่ผ่านมาแล้ว 20 ปี แต่ก็เชื่อว่าคอแฟชั่นทั่วโลกไม่มีทางลืมเลือน เป็นคอลเล็กชั่นที่เหมือนเตือนให้ระลึกถึงสงครามแฟชั่นระหว่างฝั่ง Minimalist และฝั่ง Maximum ซึ่งกระหน่ำนำเสนอผลงานสุด Dramatic ให้แก่โลกแฟชั่นอย่างไม่ขาดสาย, John Galliano เป็นอีกรายที่ขณะนั้นโลกแฟชั่นต่างเฝ้าจับตาเป็นพิเศษ เพราะหลังจากดีไซเนอร์ผู้ชื่นชอบแฟชั่นในรูปแบบ Punk และ Costume ของละครบรอดเวย์คนนี้ เขย่าวงการให้สะเทือนมาแล้ว 1 ปีที่ Givenchy เมื่อมาถึงที่ Dior ตัว John Galliano ก็ฉลาดพอที่จะนำเสนอผลงานสุดหรูคู่ห้องเสื้อชั้นสูงเพื่อเป็นการเรียกเสียงเชียร์จากลูกค้ารายเก่า แต่ก็ไม่ลืมนำเสนอชิ้นงานร่วมสมัยแก่ลูกค้ารายใหม่ด้วยการมิ๊กซิกเนเจอร์และของชอบของ Monsieur Dior ลงไปทั้ง New Look, กลิ่นอายของโลกตะวันออก และ Ethnic Fashion


Givenchy Haute Couture 
Spring 1997



Haute Couture แรกของ Alexander McQueen สำหรับห้องเสื้อ Givenchy ฤดูกาล Spring 1997 กลายเป็นอีกหนึ่งคอลเล็กชั่นในตำนานเมื่อ Alexander McQueen พิสูจน์ให้โลกแฟชั่นได้เห็นว่านักออกแบบผู้ได้รับฉายาตัวร้ายของวงการ ผู้นำเสนองานแฟชั่นโลกแตก ดูดิบและห่าม ก็สามารถสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นสุดหรูดูวิจิตรได้เช่นเดียวกัน แม้ Lee McQueen เคยให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้ตื่นเต้นมากนักที่ได้รับตำแหน่งเป็นผู้นำในห้องเสื้อระดับตำนานเช่น Givenchy แต่ผลงานแรกก็สร้างความกดดันให้กับดีไซเนอร์หน้าใหม่ที่พ้นวัยเบญจเพสไม่นานเป็นอย่างมาก ท้ายสุดผลลัพธ์ที่ออกมานั้นสมบูรณ์แบบจนกลายเป็นคอลเล็กชั่นที่นักออกแบบรุ่นหลังพูดถึงเสมอมา ทั้งในส่วนของเสื้อผ้าซึ่งทำให้สาวๆ Givenchy กลายเป็นเหล่าทวยเทพในตำนาน จนถึงงานของ Philip Treacy สำหรับในส่วน Headpieces และงานโลหะโดย Shaun Leane


Gaultier Paris
Spring 1997



อีกหนึ่งความฮือฮาในโลกแฟชั่นขณะนั้น คือการที่สมาพันธ์ห้องเสื้อชั้นสูงแห่งฝรั่งเศสทาบทาม และเชิญให้ดีไซเนอร์สุดซ่าส์ Jean Paul Gaultier ลอนช์ Couture ไลน์ เพื่อสร้างสีสันให้กับโลกแฟชั่นชั้นสูง ในต้นปี 1997 คอลเล็กชั่นชั้นสูงของ Jean Paul Gaultier ที่ใช้ชื่อว่า Gaultier Paris จึงเผยโฉมออกมาด้วยคอลเล็กชั่นที่เรียกได้ว่าเป็นกบฏแห่งโลก Haute Couture ในเวลานั้น JP Gaultier นำเอา Denim ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในเนื้อผ้าสำหรับชนชั้นแรงงาน มาเนรมิตรกลายเป็นเดรสตัวสวย, การนำคาแร็คเตอร์ของนางโชว์และโสเภณีชั้นสูงมาปรับใช้ในคอลเล็กชั่น, การนำเสนอในส่วนของ Men's Couture สำหรับผู้ชายยุคใหม่ที่อยากใส่อาภรณ์ชั้นสูงเช่นเดียวกับสาวๆ รวมทั้งงานประดับขนนกท้าทายกลุ่ม PETA ทั้งหมดทำให้ Gaultier Paris คอลเล็กชั่นแรกกลายเป็นหนึ่งในโชว์เด่นประจำซีซั่นและเป็นอีกคอลเล็กชั่นยอดเยี่ยมตลอดกาล


Thierry Mugler Haute Couture 
Fall 1997



อีกหนึ่งนักออกแบบระดับตำนานที่นำเสนอผลงานระดับ ''อลังการดาวล้านดวง'' ทุกซีซั่น โดยเฉพาะกับ Haute Couture คอลเล็กชั่น Fall 1997 ที่ดูมีทีเด็ดทุกชุดทุกชิ้น เรียกว่าถ้ามองหาความเป็นมินิมอล ให้ลืมชื่อของ Thierry Mugler ไปได้เลย โดยเฉพาะกับงานปักคริสตัลและเลื่อมแบบกระหน่ำอย่างช่วงฟินาเล่ ซึ่งถือเป็นงานระดับมาสเตอร์พีซอยู่คู่กับวงการแฟชั่นโลกไปแล้ว แต่น่าเสียดายที่งาน Haute Couture คอลเล็กชั่นนี้เป็นคอลเล็กชั่นท้ายๆที่ Mugler นำเสนอแฟชั่นสุดดรามาติกมาพร้อมกับโปรดัคชั่นโชว์ใหญ่โตเทียบเท่าละครบรอดเวย์ ก่อนที่คอลเล็กชั่นต่อๆไปนั้นมีปัญหาทางด้านเม็ดเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง จนรูปแบบของโชว์ และรูปแบบผลงานลดขนาดความใหญ่โตไปตามลำดับ แต่ตลอดระยะเวลา 3 ทศวรรษที่ผ่านมา Mugler นั้นเป็นอีกหนึ่งนักออกแบบชั้นยอดที่มีผลงานให้บรรดาแฟนคลับได้ติดตามและชื่นชมตลอดมา

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...