ค่านิยมการมีผิวขาวราวกับหิมะในหมู่สาวๆที่เราเห็นในปัจจุบันนี้มีมานานแสนนานแล้ว โดยเฉพาะกับแฟชั่นหน้าขาว (Lead Makeup) ที่เป็นการใช้เครื่องสำอางทำให้ใบหน้าดูขาวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั้นมีมาตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ จนได้รับความนิยมถึงขีดสุดในสมัยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ ในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 ต่อเนื่องมาจนถึงรัชสมัยของพระนางมารีในศตวรรษที่ 18 เพราะสาวสังคมชั้นสูงเชื่อว่าการมีผิวคล้ำดูกระดำกระด่างคือกลุ่มคนไม่มีเงิน ต้องตรากตรำทำงานตากแดดอาบเหงื่อจนผิวหมองคล้ำไม่สวยงาม
และด้วยค่านิยมนี้เองที่นำมาซึ่งอีกหนึ่งแฟชั่นแห่งยุคสมัย ‘โมเช’ (Mosche) คำภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า ‘แมลงวัน’ เป็นการนำผ้าไหมสีดำมาตัดเป็นแผ่นเล็กๆรูปต่างๆอย่างรูปวงกลม ดวงดาว พระจันทร์เสี้ยวเพื่อปกปิดสิวและจุดด่างดำบนใบหน้า นอกจากปิดบังสิ่งไม่พึงปรารถนา ช่วยขับให้ผิวหน้ายิ่งดูขาวขึ้นแล้ว ตำแหน่งของการติดโมเชยังสื่อถึงความนัย ซึ่งผู้ติดต้องการส่งสารไปยังผู้พบเห็นได้อีกด้วย เช่น ติดที่หน้าผากสื่อถึงการเป็นผู้ดีมีสกุล ติดที่หางตาคือการสื่อว่าเป็นสาวผู้รุ่มร้อน ติดทแยงเหนือริมฝีปากสื่อว่าเป็นสาวนักจูบผู้ดูดดื่ม เป็นต้น ดังนั้นต่อไปนี้ใครไปเที่ยวกลางคืนแล้วติด 'โมเช' ถูกจุดเม็ดใหญ่ๆ ได้ผู้กลับบ้านแน่นอน ฮ่า ๆ
เนื้อหาบางส่วนจากบทความในคอลัมน์ Inside Fashion นิตยสาร ELLE Thailand, April 2020 // รูปประกอบ John Galliano Fall/Winter 2003
No comments:
Post a Comment