Gaultier Paris by Glenn Martens ต่างจากกรณี Chitose Abe อย่างสิ้นเชิง ในกรณีของชิโตเซะซึ่งเป็นนักออกแบบรับเชิญรายแรกของโกลติเยร์นั้นบาลานซ์กัน 50 - 50 ระหว่างดีเอ็นเอและไอคอนิกของโกลติเยร์และซิกเนเจอร์ของชิโตเซะ แต่ของเกลนน์เป็นงานทดลองที่มีกลิ่นอายของโกลติเยร์เพียง 10% คล้ายไปยืมทีมช่างของโกลติเยร์ทำโอตกูตูร์ตัวเอง
แต่ชอบที่สุดในคอลเล็กชั่นนี้คือการนำเสนอลวดลายศิลปะลวงตาหรือที่รู้จักกันในชื่อ Trompe-l'œil ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของโกลติเยร์ในรูปแบบใหม่ เป็นการใช้เทคนิกซ้อนผ้าเป็นชั้นๆเพื่อสร้างแสงเงาและลวดลายขึ้นมา ซึ่งเทคนี้ถือว่าน่าประทับใจทีเดียว