(Christian Dior : Fashion Show in 1951)
Marlene Dietrich ชื่นชมในแฟชั่นสไตล์จาก Monsieur Dior มากซึ่งดูได้จากคลิปวีดีโอใน Part 1 แฟชั่นโชว์ของแบรนด์นี้จึงมี Marlene Dietrich เป็นแถวหน้าตั้งแต่อดีตจนเสียชีวิตลง ยุคของ 'John Galliano' มีโชว์เด่นสองโชว์ที่ Tribute ให้ตำนานคนนี้ โชว์แรกคือ S/S 04 และอีกทีเมื่อครบรอบ 60 ปีของห้องเสื้อในปี 07 ด้วยคอลเล็กชั่น S/S 08
Stage Fright : Costume by Christian Dior (1950)
Dior S/S 04 ดึงเอาลุคของ Dietrich ตั้งแต่ Blonde Venus ในปี 1932 จนถึงชุดโดย 'Christian Dior' สำหรับภาพยนต์เรื่อง Stage Fright ในปี 1950 มาใช้จนกลายเป็นคอลเล็กชั่นสวยอีกหนึ่งงานของ Galliano ที่ติดโชว์เด่นประจำซีซั่นและเช่นกันเมื่อครบรอบ 60 ปีของห้องเสื้อในปี 2007 เราจึงได้เห็นงานดีๆที่ Tribute ให้ Dior และ Dietrich อีกครั้ง
Dior Spring/Summer 2004
Dior Spring/Summer 2008
(D&G , Lanvin , YSL , Chloe , Chanel)
อีกคนที่สไตล์เด่นชัดไม่แพ้กันก็คือ Klaus Nomi เพราะเสื้อผ้าที่ใช้มันทั้งเป็น Dramatic และ Avant-Garde ในสไตล์ที่เห็นได้ทั้งแบบน่ารักและน่ากลัวอย่างตัวตลกหรือตุ๊กตา บนใบหน้าที่แต่งจัด ปากสีคล้ำ ผมดำและตั้งตรง ไม่รู้คนในยุคนั้นมอง Nomi เป็นอย่างไรแต่มันทำให้แฟชั่นดีไซเนอร์ระดับโลกหลายคนหยิบยืมมาใช้เป็นแรงบัลดาลใจได้ตลอด
ดีไซเนอร์ระดับโลกหลายคนหยิบเอาสไตล์ของ Nomi มาใช้ทั้งตำนานที่เพิ่งจากไปอย่าง McQueen หรือ Gareth Pugh กับโชว์ผู้ชายคอลเล็กชั้นแรกที่ดึงเอาคอสตูมในการแสดงมาปัดฝุ่นใหม่ แต่ที่ Tribute ให้แบบเป็นเรื่องเป็นราวคือ JP Gaultier ในคอลเล็กชั่น Haute Couture SS 09 ด้วยเพลงของ Nomi ทั้งเปิด-ปิดโชว์ รวมถึงชุดที่เป็นเหมือนโลโก้ประจำตัว
(Gareth Pugh : S/S 06)
(Gareth Pugh : Men F/W 2009)
Gaultier Paris : Spring 2009
Gareth Pugh : S/S 06 & Gaultier Paris : S/S 09
ตำนานสองคนนี้มีสิ่งที่เหมือนกันทั้งเป็นนักแสดงและนักร้อง มีสไตล์เฉพาะตัวที่ชัดเจน และเหนืออื่นใดคือความสามารถที่หลายคนต่างยกให้เป็น Idol ในดวงใจและใครอีกหลายคนต่างยกให้เป็น Muse ที่คงต้องเรียกว่าตำนานที่เป็น Muse สำหรับแรงบัลดาลใจตลอดกาลฮ่ะ
(Special Thanks : Tonguechic,Beautifuldecay,Chaderiasays,Fansinaflashbulb)
No comments:
Post a Comment