Haute Couture Spring 2017 : Highlight

แม้เศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบต่อระบบธุระกิจแฟชั่น จนเกิดการเปลี่ยนมากมายในช่วง 2 ปีมานี้ แต่ก็เหมือนเป็นเรื่องดีให้ Haute Couture ย้อนกลับไปสู่จิตวิญญาณของการสร้างสรรค์อาภรณ์ชั้นสูง ซึ่งมีไว้เพื่อการสวมใส่ในชีวิตจริง ให้ลูกค้าคุณผู้หญิงที่เงินหนาจากทั่วทุกมุมโลกมาเลือกจับจอง กลายเป็นเม็ดเงินต่อยอดให้ห้องเสื้อ มากกว่ามามุ่งเน้นการทำผลงานสำหรับโชว์ไอเดียบรรเจิดเพียงอย่างเดียว ก่อนที่สุดท้ายจะกลายเป็นแค่มาสเตอร์พีซเก็บเข้าคลังหรือพิพิธภัณฑ์ไป รวมทั้งยังเป็นเรื่องดีที่ทำให้คนส่วนใหญ่ได้เข้าใจว่าเสื้อผ้าที่เรียกว่า Haute Couture นั้นหรูหราได้ด้วยวัสดุ การตัดเย็บ โดยไม่จำเป็นต้องดูฟูฟ่องเป็นชุดเจ้าหญิงดีสนีย์ หรืองานปักเลื่อมแบบกระหน่ำอย่างที่เห็นจนชินตาในยุคที่เศรษฐกิจโลกรุ่งเรืองมากๆช่วงก่อนหน้านี้

Chanel Haute Couture

Spring 2017

Karl Lagerfeld หนึ่งในสุดยอดกูตูริเยร์ประจำห้องเสื้อใหญ่เช่น Chanel เคยให้สัมภาษณ์เมื่อครั้งที่หลายประเทศทั่วโลกเจอพิษเศรษฐกิจช่วงปลายศควรรษที่ 20 ว่า แม้เสื้อผ้า Haute Couture ของ Chanel อาจดูเรียบง่าย เมื่อแรกเห็นมีฟอร์มคล้าย Ready-to-Wear แต่ลูกค้าของ Chanel ย่อมรู้ดีถึงความแตกต่าง อย่างเช่นที่แสดงให้เห็นอีกครั้งในฤดูกาลล่าสุดนี้  เพราะเกิน 70% ของคอลเล็กชั่นคือชุดที่สวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน แตกต่างจากคอลเล็กชั่นเสื้อสำเร็จรูปก็ตรงดีเทลอัดแน่นให้สมเสื้อผ้าราคาหลักหลายแสน ถึงหลักล้านบาท งานปักที่ช่วยสร้างมิติให้กับชุดคัทติ้งคมๆ เส้นสายเรียบง่ายไม่วุ่นวายซับซ้อน และคู่สีที่ดูคลีนสบายตา เท่านี้ก็มัดใจสาวๆเงินหนาซึ่งเป็นลูกค้า Chanel ที่กำลังมองหาชิ้นสุดพิเศษเพียงหนึ่งเดียว

Dior Haute Couture 

Spring 2017

เช่นกันกับในอีกฟากฝั่ง Christian Dior ยังคงไม่ขอกลับไปนำเสนอแฟชั่นหลุดโลก เพื่อสร้างความเสี่ยงให้กับตัวเอง โดย Haute Couture แรกของ Maria Grazia Chiuri สำหรับ Dior ยังเป็นการนำเสนอภาพฝันของหญิงสาวในวัยเด็กให้สวมใส่ได้แบบไม่ดูเคอะเขิน สไตล์ลิ่งที่อาจดูเกินจริงมีเพียง Headband โดย Stephen Jones สำหรับช่วยเติมเต็มจินตนาการให้โดดเด่นเห็นชัด เพราะเมื่อพูดถึงรากเหง้าของ Christian Dior โดยตัว Monsieur Dior แท้จริงแล้วคือจุดเริ่มต้นจาก 'New Look' จนถึงช่วงปลายยุค 50's ที่เค้าได้เสียชีวิตลง การนำเสนอโครงสร้างอย่าง 'Bar Jacket' สำหรับสาวทศวรรษใหม่ โดยปรับเปลี่ยนโครงเสื้อไปในหลายแบบเช่น Peplum อ่อนหวานตามที่ Chiuri วาดฝัน จึงเป็นคอลเล็กชั่นที่กลับไปสู่รากเหง้าอย่างแท้จริง

Atelier Versace

Spring 2017

เมื่อพูดถึงเรื่องความเสี่ยง นอกจากการลดความเสี่ยงโดยไม่นำเสนอแฟชั่นหลุดโลกแล้ว การปรับลดสเกลจากรูปแบบรันเวย์โชว์ เหลือไว้เพียงพรีเซนเทชั่นด้วยจำนวนลุคที่น้อยลง ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ Atelier Versace เลือกใช้อีกครั้ง แม้อาจดูเพลย์เซฟในส่วนของรูปแบบการจัดแสดง และจำนวนลุค แต่ทั้ง 17 ลุคของ Atelier Versace ยังคงทำให้แฟนคลับเต็มอิ่มได้ด้วยรายละเอียดแบบจัดเต็มทุกๆชุดทุกๆชิ้น ทั้งการปัก ถัก สาน กลายเป็นชิ้นงาน Couture ซึ่งดูหรู และเซ็กซี่ตามแบบฉบับของห้องเสื้อ เพราะเมื่อเอ่ยถึงภาพจำของสาวในแบบฉบับของ Versace ภาพของสาวเท่แกลมร็อก, หรูหราเจ็ตเซ็ต และเซ็กซี่เผ็ดร้อน ถูกสะท้อนผ่านทางคอลเล็กชั่น Haute Couture ฤดูกาลล่าสุดได้อย่างครบถ้วน ดูสวยและสง่าหรูหราสมบูรณ์แบบจริงๆ


Givenchy Haute Couture
Spring 2017

Givenchy เป็นอีกหนึ่งห้องเสื้อที่ต้องลดความเสี่ยง ด้วยการหยุด Couture ไลน์ไปเมื่อปี 2012 ก่อนจะกลับมาใหม่ในปี 2015 ด้วยการแทรก Haute Couture โชว์ควบคู่ไปกับ Menswear จนถึงฤดูกาลล่าสุด ที่แม้ทั้ง 10 กว่าลุคอาจดูแล้วไม่เซอร์ไพรส์ เพราะทั้งรูปทรง เทคนิคที่ใช้ ไปจนถึงในส่วนของรายละเอียดนั้นเป็นสิ่งที่เห็นกันจนชินตาจาก Couture ของ Givenchy by Riccardo Tisci ช่วง 7 ปีหลังที่ผ่านมา แต่ก็ต้องขอชื่นชมว่า Givenchy ยังคงเป็นหนึ่งในห้องเสื้อชั้นสูงประจำพศ.นี้ ที่ยังใช้เทคนิคในการนำขนนกมาประดับบนชิ้นงานได้น่าชื่นชมที่สุดห้องเสื้อหนึ่ง อีกทั้งในส่วนเทคนิคของถนัดเช่น Fringe และการใช้ลูกไม้ควบคู่ไปกับวัสดุหลายชนิดก็ดูลงตัวมากๆเช่นกัน แม้เป็นคอลเล็กชั่นที่อาจดูน่าเบื่อ แต่เชื่อว่าลูกค้าสาวๆเงินหนาคงถูกใจ


Maison Margiela Artisanal
Spring 2017

คอลเล็กชั่นเสื้อผ้าชั้นสูงในไลน์ 'Artisanal' ของ Maison Margiela อาจไม่มีงานปักวิจิตรสุดหรูหราเทียบเท่า Chanel, มาพร้อมโปรดัคชั่นขนาดใหญ่เทียบเท่า Dior หรือรูปแบบผลงานในแบบภาพจำที่คนส่วนใหญ่คิดไว้เมื่อเอ่ยถึง Haute Couture แต่ทั้งหมดล้วนดูเป็น 'งานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซ' ซึ่งต้องดูอย่างพินิจพิจารณาแล้วจะเห็นว่า เป็นงานหรูระดับ Haute Couture อย่างไร? เทคนิคหลักสำหรับงาน Decon / Reconstruction ด้วยการรื้อ แงะ แกะ ประกอบร่างขึ้นมาใหม่พื่อให้ได้ชิ้นงานสวยๆเพียงหนึ่งชิ้นยังคงทำให้พูดได้ว่า Maison Margiela คือห้องเสื้อที่ทำผลงานในรูปแบบนี้ออกมาได้ดีที่สุด หลายชุดเช่นเทรนช์โค้ท และการจับผ้าเพื่อให้ได้มาซึ่งรูปหน้าสื่อสารอารมณ์เช่นผลงานของ Benjamin Shine คืออีกหนึ่งที่สุดของฤดูกาล


Gaultier Paris
Spring 2017

แม้งานฉลอง 20 ปีของไลน์ Gaultier Paris อาจดูไม่หวือหวาตระการตา อาจเพราะมีปัญหาเรื่องเงินทุนเป็นหลัก แต่ Haute Couture ของ Jean Paul Gaultier นักออกแบบผู้ที่ได้รับฉายาว่าเป็น 'The Enfant Terrible' ของวงการ และเป็นกูตูริเยร์ชาวฝรั่งเศสเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งยังแสดงผลงาน Haute Couture อยู่ในปัจจุบันคนนี้ แสดงให้เห็นว่าเค้าคือหนึ่งในต้นนำสายหลักแห่งยุค 80's ที่ได้ส่งผ่านแนวคิดไหลลงมาสู่ Martin Margiela และเป็นทอดๆสู่ Demna Gvasalia ในปัจจุบัน คอลเล็กชั่นสาวบ้านนาที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าดูเชยด้วยรูปทรง แต่ทุกชิ้นยังคงแสดงถึงงานฝีมือระดับปรมาจารย์ด้านการตัดเย็บได้เป็นอย่างดี ทั้งแจ็กเก็ตยีนส์ซึ่งแทนที่ Denim ด้วยการสานริบบิ้น, ชุดลายดอกชบาผ้าแจ็กการ์ดสีสด คอร์เซ็ทและ 'นมกรวยแหลม'


Armani Prive
Spring 2017

เมื่อ Haute Couture Week ฤดูกาลล่าสุดปิดฉากลง คงต้องขอยกนิ้วให้กับ Mr.Armani ที่คงกลายเป็นนักออกแบบซึ่งสามารถจับทิศทางการเรียกกำไรให้ห้องเสื้อได้ดีที่สุด ดูเหมือน Mr.Armani รู้ว่าเศรษฐกิจจีนอาจเจอกับปัญหา ทำให้ Armani Prive ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา 'ตะวันออกกลาง' กลายเป็นจุดหมายปลายทางหลักหลังจากที่หลงรักกับจีนอยู่พักใหญ่ๆ ที่ขอชื่นชมที่สุดในคอลเล็กชั่นคราวนี้คือสีที่ใช้นั้นสวยมากๆ สีของชุดที่ดูเข้ากับเครื่องประดับ ลายพิมพ์ และเมคอัพ เหมือนเป็นลุคพร้อมเสิร์ฟให้เศรษฐีนีเงินหนารีบพิจารณาสวยได้อย่างบนรันเวย์ ไม่มีสไตล์ลิ่งเกินจริงจาก Headpieces เช่นที่ผ่านๆมา มีแต่เสื้อผ้าที่สวมใส่แล้วทำให้ดูสง่า เป็นเสื้อผ้าที่ทำให้ผู้สวมใส่ดูดี ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในหัวใจหลักของการสร้างสรรค์ Haute Couture ^__^