ยังยังอยู่ในช่วงข่าวเซอร์ไพรส์หนักๆ Riccardo Tisci คือว่าที่ Chief Creative Officer คนใหม่ของ Burberry เชื่อว่าหลายๆคน (รวมทั้งตัวเอง) ก็คิดไม่ถึงว่า Riccardo Tisci และ Burberry จะโคจรมาพบกัน เพราะดูแล้วไม่ค่อยมีอะไรเชื่อมโยงกัน แต่! สิ่งที่ทำให้ Riccardo Tisci และ Burberry โคจรมาพบกันคือ Burberry พยายามสลัดภาพลักษณ์เดิม และยกระดับแบรนด์ให้หรูหราขึ้นเทียบเท่ากับการตัดเย็บอาภรณ์ชั้นสูง
หลายคนที่ติดตามข่าวแฟชั่นคงทราบว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา Burberry เสียเงินจำนวนมหาศาลในการกว้านซื้อ Burberry ไลน์ต่างๆที่ไปกระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกให้กลับมาเป็นของตัวเองแบบเบ็ดเสร็จ ตามมาด้วยการยกระดับผลงานของแบรนด์ให้หรูหราขึ้น ซึ่ง (เค้าว่ากันว่า) ไม่ใช่สิ่งที่ตัว Christopher Bailey ถนัด อีกทั้งเมื่อผู้บริหารระดับบนเห็นทิศทางของกระแสแฟชั่นซึ่งนักออกแบบสายเลือดใหม่ในกลุ่ม 'สายสตรีท' สร้างเอาไว้แล้วต้องการผลักดันให้ Burberry ไปสู่ทิศทางนั้นเพื่อทำกำไร จึงยิ่งทำให้ Christopher Bailey กดดันและลำบากใจที่จะร่วมงานกับ Burberry ต่อไป สื่อบางเจ้าถึงขั้นลือกันว่าผลงานสุดท้ายสำหรับ Burberry นั้นเกินครึ่งป็นผลงานของสตูดิโอทีม จึงดูต่างไปจากงาน Bailey เดิมๆ
เค้าว่ากันว่า (แต่น่าจะจริง) ที่กำลังจะเกิดขึ้นใน Burberry ยุค Riccardo Tisci คือ ... 1. ยกเลิกระบบ See Now Buy Now หันกลับเข้าสู่ระบบแฟชั่นแบบเดิมที่นำเสนอผลงานล่วงหน้าฤดูกาลจริง ... 2. จากผลตอบรับที่ Burberry x Gosha Rubchinskiy วางไว้ ทำให้ Burberry เบนเข็มเข้าสู่สงครามแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดกับแบรนด์สายสตรีท และ 3. ให้ความสำคัญกับไลน์สั่งตัดพิเศษเพื่อสร้างงานหรูเทียบเท่าห้องเสื้อกูตูร์ฝั่งปารีส หรือทั้งหมดทั้งมวลก็คือ "โกยเม็ดเงินทุกช่องท่าง" ที่ Riccardo Tisci สามารถทำได้นั่นเอง
No comments:
Post a Comment