"แฟชั่นโชว์จะกลายเป็นเรื่องแปลกประหลาดมากกว่าเก๋"

'Lidewij Edelkoort' ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักพยากรณ์เทรนด์แฟชั่นที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก และเป็นที่ปรึกษาให้แก่บริษัทแฟชั่นชั้นนำมากมาย ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับผลกระทบที่โลกจะได้รับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ด้วยหลายประเด็นน่าสนใจ โดยทั้งหมดทั้งมวลพอสรุปได้คร่าวๆว่า "โลกของเราจะหมุนช้าลง" ด้วยผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม 

เธอได้พูดถึงทั้งผลดีและผลเสียจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสร้ายครั้งนี้ ตั้งแต่เรื่องสภาพอากาศของประเทศจีนที่ตอนนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง หลังจากสองเดือนที่ผ่านมามีหลายโรงงานหยุดการผลิตชั่วคราวที่ทำให้เห็นผลเชิงประจักษ์ว่า การก๊าซคาร์บอนและมลพิษจากอุตสาหกรรมลดลง เป็นเหมือนการรีเซ็ทโลกใบนี้ เพื่อรักษาเผ่าพันธ์ุให้มนุษย์ได้หายใจอย่างเต็มปอดอีกครั้ง ไปจนถึงเรื่องผลกระทบที่มีต่อโลกพาณิชย์ศิลป์ เนื่องจากขีดจำกัดในการบริโภคที่ส่งผลกระต่อวิถีชีวิตของผู้คนอย่างเห็นได้ชัด สถานการณ์ไวรัส Covid-19 จากเดิมที่มีศูนย์กลางการแพร่ระบาดอยู่ในจีน จนล่าสุดองค์การอนามัยโลกออกมาแถลงอย่างเป็นทางการแล้วว่า 'ยุโรป' เป็นศูนย์การของการแพร่ระบาดแห่งใหม่ นั่นหมายความว่ามาตรการการ 'กักกันตัวเองโดยอัตโนมัติ' ของผูคนทั้งสองซีกโลก บีบบังคับใหเราคุ้นเคยกับการมีชีวิตอยู่ด้วยการครอบครองที่น้อยลง หันมาเห็นคุณค่าในสิ่งต่างๆรอบตัวมากขึ้น เพราะถึงอยากมีมากไปในตอนนี้ก็ไม่มีให้บริโภค เนื่องจากผลกระทบด้านห่วงโซ่อุปทานและเครือข่ายการขนส่งทั่วโลก ที่แน่ๆเลยตอนนี้ส่งผลต่อการผลิตสินค้าคอลเล็กชั่นฤดใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวปี 2020 เป็นที่เรียบร้อย

.

สิ่งที่ตามต่อมาคือ กิจกรรมต่างๆในอุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างการจัดแฟชั่นโชว์ จะยิ่งถูกล้อเลียนโดยคนส่วนใหญ่ ผู้คนจะมองว่าไร้สาระและไม่รู้จักกาลเทศะ เป็นเรื่องแปลกประหลาดมากกว่าเก๋ เพราะนิยามของความหรูหรารูปแบบใหม่คือโฟกัสกับการใช้ชีวิตที่ลงตัว การมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากกว่าผูกติดกับข้าวของที่มีเพื่อเน้นสถานะทางสังคม ธุรกิจในท้องถื่นที่ซบเซาจะกลับมาเฟื่องฟู ตลาดสินค้ารูปแบบงาน DIY จะกลายเป็นของ Chic ที่ผู้คนเห็นคุณค่ามากกว่าตราสินค้าของเหล่าแบรนด์ดัง

ลิงค์ต้นทาง > dezeen <