November 28, 2021

Happy 61st Birthday 'John Galliano'

ในอดีต 'เดนิม' ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเครื่องแต่งกายสำหรับ 'ชนชั้นแรงงาน' ดังนั้นการที่ห้องเสื้อชั้นสูง หรือ 'กูตูร์เฮาส์' ของฝรั่งเศสจะนำเสนอผลงานที่เน้นเดนิม อาจทำให้ 'ลูกค้ารุ่นลายคราม' ตกใจ แต่ ”ผมต้องพาดิออร์ก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ให้ได้ แม้มีธีที่ใช้จะดูบ้าไปหน่อยก็ตาม”- จอห์น กัลลิอาโน่ (John Galliano) อดีตผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งเมซง Dior (ปี 1996 - 2011) ให้สัมภาษณ์ถึงคอลเล็กชั่นฤดูร้อนปี 2000 อันโด่งดัง 

ความชาญฉลาดของทีมการตลาดและตัวกัลลิอาโน่คือ ก่อนหน้านั้น 2 ปี (1997- 1998) เขานำเสนอคอลเล็กชั่นดูหรูหราพาฝันสำหรับกูตูร์เฮาส์หลังนี้ เพื่อที่จะชนะใจลูกค้าเก่าซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเบบี้บูมเมอร์และต้นเจน-เอ็กซ์ และลบข้อครหาที่ว่า 'นักออกแบบสุดซ่าจากดินแดนแห่งพังก์' จะเอาห้องเสื้อชั้นสูงหลังนี้อยู่หรือไม่ หรือพูดง่ายๆคือหลอกให้ตายใจก่อนจะจัดเต็มความบ้าระห่ำในปี 1999 มีคอลเล็กชั่นฤดูร้อนปี 2000 ที่ว่าเป็นเข็มทิศนำไปสู่การจับกลุ่มลูกค้าชาวมิลเลนเนียล หรือเจน-วาย ที่การตลาดพิสูจน์แล้วว่าจะเริ่มเข้ามามีอิทธิพลในอุตสาหกรรมแฟชั่น

กัลลิอาโน่กลับไปรื้อประวัติศาสตร์ของห้องเสื้อและพบว่า โมทีฟที่สามารถนำมาเชื่อมโยงกับกระแสของโลกแฟชั่นในช่วงเวลานั้นได้อย่างดีคือลายโมโนแกรม oblique ที่ถูกออกแบบไว้ตั้งแต่ปี 1967 นอกจากสอดคล้องกับกระแส logomania ที่กำลังกลับมาแล้ว ยังมีสีใกล้เคียงกับเดนิม วัสดุหลักที่ต้องการนำมาใช้ (รวมทั้งการย้อมสีวัสดุอื่นๆ ทั้งไหมและหนังเอ็กซ์โซติกให้คล้ายเดนิม) เพื่อเอาใจลูกค้าวัยรุ่นที่นิยมนุ่งยีนส์ของแบรนด์ดังฝั่งอเมริกาและอิทธิพลแฟชั่นจากเหล่าบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มดังที่เห็นผ่านรายการยอดฮิตของยุค 'MTV'

และยังร่วมกับทีมออกแบบสร้าง 'ของต้องมี' มากระชากใจวัยรุ่น ผลลัพธ์ที่ได้คือกระเป๋าทรงอานม้า (Saddle Bag) ได้แรงบันดาลใจจากภาพถ่ายแนวเซ็กซี่ ณ.โรงแรม Hôtel Lancaster ในกรุงปารีส เมื่อปี 1976 ชื่อ 'Saddle I' ของช่างภาพคนดัง Helmut Newton กระเป๋าใบนี้มีห่วงรูปตัว 'D' เป็นที่คล้องนิ้วเพื่อพักแขนหรือเมื่อไม่รู้ว่าจะเอามือไปไว้ที่ไหน เป็น It-Bag ที่มาฉีกภาพจำของกระเป๋า Dior ยุคเก่าที่ส่วนใหญ่ให้ลุคคุณนาย

เท่านั้นไม่พอ! ยังดึงลุคของเหล่าแรปเปอร์คนดัง Lauryn Hill และ Foxy Brown ที่กำลังได้รับความนิยมถึงขีดสุดมาปรับใช้กับสาวๆของดิออร์ เปลี่ยนรูปแบบโชว์ยิ่งใหญ่เทียบเท่าละครบรอดเวย์ กลายมาเป็นรันเวย์ทางตรงมีฉากหลังและพื้นดำขลับ เพื่อขับให้ลาย Oblique และลวดลายสายเข็มขัดสีทองล้อเลียนสไตล์ผ้าพันคอ Hermes ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น (จากรายงานในยุคนั้นว่ากันว่าตัวต้นแบบใช้ผ้าพันคอ Hermes จริงๆมารื้อ เลาะ และประกอบขึ้นใหม่)

ที่กลับมาเขียนถึงคอลเล็กชั่นในตำนานนี้ เพราะวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ 61 ของนักออกแบบคนโปรด John Galliano และเพื่อบันทึกไว้ว่า ใครที่คิดว่านักออกแบบสายดรามาติกอย่างกัลลิอาโน่ทำ ของขาย ไม่เป็นนั้น คือ "คิดผิด" เพราะกูตูริเยร์ผู้นี้สามารถบาลานซ์ระหว่างของขายคู่กับชิ้นโชว์ได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว ... Always love JGalliano XoXo

No comments:

Post a Comment

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...