หลังจากเก็บตกฉบับย่อกับ Paris Mens Fashion Week S/S 2017 ไปในก่อนหน้า คราวนี้ก็ขอมาเก็บตกบรรยากาศโดยรวมของทริป Paris ปลายเดือนมิถุนายน 2016 นี้อีกครั้ง โดยในบล็อกนี้ยังคงขอเขียนคร่าวๆว่าไปปารีสในคราวนี้ ช่วงปลายเดือนมิถุนายนนั้นได้เจออะไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลแก่ผู้ที่มีแพลนจะเดินทางไปปารีสในช่วงเวลาเดียวกันของปีถัดไป เพราะ Paris ในช่วงกลางปีของปีนี้ มีทั้งบรรยากาศซึ่งเหมือนกับ Paris ในช่วงกลางปีก่อนๆ และทั้งที่มีแตกต่างกันไป โดยจะขอเริ่มจากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในรอบหลายสิบปีของฝรั่งเศสเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่หลายๆคนก็ไม่คาดคิด ทำให้พิพิธภัณฑ์หลักๆบางแห่งต้องหยุดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เพื่อขนย้ายผลงานศิลปะมีค่าต่างๆไปไว้ในที่ปลอดภัย ซึ่งโชคดีที่สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ของฝรั่งเศสในครั้งนี้คลี่คลายก่อนที่จะมีงานฟุตบอลยูโร UEFA Euro 2016 ที่เริ่มในวันที่ 10 มิถุนายน และงานสัปดาห์แฟชั่นชายของกรุงปารีสที่เริ่มในวันที่ 22 มิถุนายน
สัญลักษณ์ลูกฟุตบอลขนาดใหญ่ที่ประดับไว้กลางหอไอเฟล
ระดับน้ำในกรุง Paris ที่ลดระดับลงสู่สภาวะเป็นปรกติ
เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ของฝรั่งเศสเริ่มคลี่คลาย บรรยากาศซึ่งดูคึกคักของมหานครแห่งศิลปะและแฟชั่นก็กลับมาอีกครั้ง แม้ส่วนตัวรู้สึกว่าอุณหภูมิของช่วงปลาย Spring เข้าต้น Summer ของ Paris ในช่วงกลางปีนี้สูงกว่าปีที่ผ่านมา โดนตอนเช้า-บ่ายอยู่ที่ประมาณ 17-25 องศา และในตอนเย็น-ค่ำอยู่ที่ 10 กว่าองศา แต่ก็ยังเป็นอุณหภูมิเย็นสบายที่ส่วนตัวชื่นชอบและคิดว่าเหมาะกับคนที่ไม่ชอบอากาศที่ร้อนเกินไป และเย็นเกินไป จะมีก็เพียงวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่อุณหภูมิของ Paris กระโดดขึ้นมาแตะที่ 30 องศา อีกทั้งเป็นวันที่ท้องฟ้าสดใส ทำให้วันนั้นมีอากาศร้อนไม่ต่างจากในเมืองไทย และทำให้ต้องมีการเปลี่ยนเสื้อผ้าที่จะไปร่วมชมโชว์ในช่วงเที่ยง-บ่าย ก่อนที่วันถัดๆไปอุณหภูมิใน Paris ได้กลับมาเย็นสบายอีกครั้ง เหมาะกับคอแฟชั่นที่ต้องการแต่งตัวตามใจโดยไม่มีสภาพอากาศมาเป็นอุปสรรค เพราะหากต้องการแต่งตามฤดูกาลจริงรับ summer ก็ทำได้ หรือใครที่ชอบการเลเยอร์ริ่งซ้อนทับหลายๆชั้นก็ทำได้เช่นกัน
ต้นไม้ ใบไม้เขียวชอุ่ม ต้อนรับการเข้าสู่ช่วง Summer 2016
ศิลปินชื่อดัง JR พรางพิรามิด Louvre ด้วยผลงานศิลปะ
และด้วยเพราะอุณหภูมิอากาศเย็นสบายเป็นใจให้เดินชมบรรยากาศรอบๆ Paris ทำให้ทริปนี้ยิ่งสนุกขึ้นไปอีก เมื่อวันที่ไปถึง Paris นั้น คือวันที่ 21 มิถุนายน ซึ่งตรงกับวันที่จัดเทศกาลดนตรี 'Fete de la Musique' ทั่วทั้งกรุงปารีสจึงเต็มไปด้วยการแสดง ร้อง เล่น เต้นระบำทั่วทุกสารทิศ และจัดกันจนดึก ถือเป็นหนึ่งวันที่ดูคึกคัก และเป็นวันที่รอคอยของผู้ที่รักดนตรีทั่วกรุงปารีส ก่อนที่ในวันรุ่งขึ้น 22 มิถุนายน คนที่รักแฟชั่นและหลงใหลในการช้อปปิ้งจะได้เต็มอิ่มกับมหกรรมลดราคาครั้งใหญ่ของปี ซึ่งในปีนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน ยาวไปถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2016 ทั่วทั้งกรุงปารีส ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าตามตรอกซอกซอย หรือห้างดัง ต่างก็ขึ้นป้าย "Soldes" ที่หมายถึงการลดราคากันถ้วนหน้า แล้วยิ่งปีนี้เป็นปีที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ การจัดฟุตบอลยูโร UEFA Euro 2016 ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศของกรุง Paris เดือนมิถุนายนปีนี้ดูคึกคักขึ้นเป็นพิเศษ ทั้ง 2 วันแรกในทริปปารีสปีนี้ จึงสร้างความประทับใจให้มากกว่าทริปปารีสเดือนมิถุนายนปีก่อน
เทศกาลดนตรีที่จัดทั่วทั้งกรุง Paris ในวันแรกที่ไปถึง
งานลดราคาครั้งใหญ่ประจำปี ในปีนี้เริ่มวันที่ 22 มิถุนายน
นอกจากความประทับใจที่มีต่อเทศกาลประจำปี และเทศกาลพิเศษที่มีขึ้นในปีนี้แล้ว สำหรับใครที่ชื่นชอบแฟชั่น ก็คงจะชื่นชอบกรุง Paris ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ด้วยเช่นกัน นั่นเพราะเป็นเดือนที่จัดงานสัปดาห์แฟชั่นชาย 'Paris Men's Fashion Week' ฤดูกาล Spring/Summer ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้จึงได้เจอบรรดาแฟชั่นนิสต้าจากทั่วโลกมารวมตัวกันในมหานครแฟชั่นแห่งนี้ เพื่อได้ชมผลงานของดีไซเนอร์ที่แต่ละคนชื่นชอบ และคอยเป็นกำลังใจให้ แม้ใครมาแล้วไม่ได้เข้าชมโชว์ก็ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าแค่ได้ดู Street Style ดีๆที่เห็นทั่วเมืองในช่วงนี้ ก็เป็นแรงบันดาลใจให้ไม่มากก็น้อย หรือใครที่ชื่นชอบนายแบบคนดัง เป็นแฟนคลับดาราและศิลปินระดับโลก ก็อาจได้ประสบพบเจอศิลปินที่ชื่นชอบโดยไม่ทันตั้งตัวตามสถานที่ต่างๆก็เป็นได้ อย่างเช่นทริปแฟชั่นวีคครั้งนี้ ตัวเองมีโอกาสได้เห็นศิลปินที่ชื่นชอบในโชว์ที่ไปชม ซึ่งเป็นตัวแทนกระแส Pop Culture แห่งเอเชียทั้ง Edison Chen (HK-Pop), Vanness Wu (T-Pop) และ Key Shinee (K-Pop)
บรรดาแฟชั่นนิสต้าที่มาร่วมเป็นกำลังใจให้ดีไซเนอร์
Key Shinee, Edison Chen, Vanness Wu ที่ไปชมโชว์ต่างๆ
ซึ่งทั้งหมดที่ได้กล่าวมา เป็นเพียงบางส่วนที่ทำให้ทริป Paris แต่ละครั้งประทับใจ และอยากกลับไปเที่ยวชมในแต่ละปี เพราะหากไม่นับเทศกาลเหล่านี้ Paris ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมหานครแห่งศิลปะ และแฟชั่นก็ยังมีสิ่งดีๆอีกมากมาย ทั้งในส่วนของผลงานศิลปะซึ่งสามารถเข้าชมได้ตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆทั่วกรุง Paris, สถาปัตยกรรมดีๆที่มีให้ได้ชม และศึกษาได้ทั่วทั้งเมือง, อาหารการกิน ทั้งอาหารคาว และของหวาน(โดยเฉพาะกับเบเกอรี่)ที่อร่อยไม่เป็นรองเมืองไหน, นิทรรศการซึ่งจัดขึ้นมาเฉพาะในแต่ละปี ทั้งแบบที่สามารถเข้าชมได้ฟรี และแบบที่ต้องเสียเงิน(แต่นั่นคุ้มค่ามากๆ) ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่บางส่วนที่ทำให้หลายๆคนที่ได้ไปเยือนปารีส ต่างก็หลงใหลและอยากกลับไปเยือนอีกตามโอกาสที่เอื้ออำนวย เพราะเสน่ของ Paris มีให้ได้สัมผัสทุกมุมเมือง และเชื่อว่าไม่สามารถสัมผัสได้ครบหมดด้วยเพียงแค่การไปเยือนครั้งสองครั้ง ดังนั้นในปีหน้า ทางบล็อกจะนำเสนอเสน่ของปารีสมุมไหนออกมา ต้องติดตามในทริป Paris ครั้งต่อไปครับ ^__^
Paris กับธงสีรุ้ง ในช่วงไว้อาลัยให้กับเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
ธรรมชาติและสีสันของฤดูกาลใหม่ที่ได้เริ่มต้นขึ้น
No comments:
Post a Comment